กรุงเทพมหานครในยุค 80 เป็นยุคที่อารยธรรมตะวันตกเริ่มไหลบ่าเข้ามาในสังคมเมือง วัยรุ่นคลั่งไคล้วัฒนธรรมต่างชาติ ความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ถูกทำให้กลายเป็นเรื่องของการค้า เครื่องรางของขลังกลายเป็นของมีราคาที่ต้องใช้เงินซื้อหามาครอบครองเพื่อเสริมสร้างบารมีมากกว่าจะบูชาเพื่อคุ้มครองชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือความโลภของมนุษย์ กล้า ไพรีพ่าย (นิว วงศกร ปรมัตถากร) ลูกชายคนเดียว ของพลตำรวจโทเพชร ไพรีพ่าย นายตำรวจกองปราบซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ ว่าเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ โดยเฉพาะเรื่องของไสยเวทก็เป็นเป้าหมายหนึ่งซึ่งเป็นที่เพ่งเล็งของนักสะสมเครื่องรางของขลัง ที่มักจะวนเวียนมาขอดูของสะสม หรือมาลองวิชาอยู่เสมอ โดยเฉพาะ ตะกรุดสามกษัตริย์ มรดกชิ้นสำคัญที่กล้าได้รับมอบมาจากเพชร หลังจากที่เพชรเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งทำให้กล้ารู้สึกเบื่อหน่ายมาก เพราะตนเองไม่ได้สนใจจะศึกษาเรื่องเหล่านี้เลย แต่ดูเหมือนว่ายิ่งหนี กล้าก็กลับยิ่งต้องเจอกับเรื่องลึกลับ เพราะเมื่อใกล้อายุครบยี่สิบ กล้ามักฝันประหลาดถึง หลวงปู่หาญ (เคลลี่ ธนะพัฒน์) ซึ่งเป็นปู่แท้ ๆ แต่เข้าธุดงค์อยู่ในป่าเป็นเวลานาน หลวงปู่หาญได้เตือนให้กล้าระวังตัวเพราะจะเกิดอันตราย แม้แต่ กระเต็น (ทราย เจริญปุระ) ก็ฝันเหมือนกัน กล้าไม่ค่อยเชื่อนัก แต่กระเต็นเดือดร้อนใจมาก ต้องไปปรึกษากับ จุก (อ๋อง พัฒนะ พันธุ์เทวะ) อดีตเด็กวัดที่เคยฝากตัวเป็นลูกศิษย์หาญ แต่เพราะหาญไม่ยอมสอนวิชาให้ จุกจึงผันตัวเองมาเป็นเซียนพระ หากินอยู่แถวท่าพระจันทร์ จุกกระตุ้นให้กระเต็นระลึกถึงอดีตเมื่อครั้งที่หาญเคยมาทำพิธีโกนผมไฟให้หลานและเคยทักว่า กล้ามีดวงที่แรงมาก ถ้าใฝ่ดีจะเป็นเจ้าคนนายคน ถ้าใฝ่ชั่วจะกลายเสือร้ายที่ไม่มีใครปราบได้ โดยเฉพาะเมื่ออายุครบยี่สิบจะเป็นช่วงตัดสิน จุกแนะนำให้กล้าบวชเพื่อสะเดาะเคราะห์ กระเต็นเห็นด้วย และกล้าก็รับปาก เพราะกล้ารักแม่มาก แม้จะไม่รู้สึกเดือดร้อนไปกับคำทำนายเลย จุกส่งรัก-ยม วิญญาณเด็กที่เลี้ยงไว้ให้ไปตามสอดส่องคุ้มครองกล้า ทำให้ นุกูล (หมู ศุภกิจ บัวงาม) หรือนุเพื่อนกล้า ที่เชื่อเรื่องเร้นลับอยู่แล้วหวาดกลัวมาก