เมื่อสูญเสียบิดาเสาหลักของครอบครัวไป เจติยา หรือ เจ (ราศี บาเล็นซิเอก้า) นักศึกษาปีสุดท้ายคณะนิติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จำต้องหางานพิเศษทำเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนของตนเองและนที (สเตฟาน สายชล ปารเนียส) ผู้เป็นน้องชาย แล้วยังต้องหาค่ารักษา มยุรี (ชนานา นุตาคม) มารดาซึ่งป่วยด้วยโรคไต วันหนึ่งมารดาของเธอป่วยหนักอย่างกะทันหัน จนต้องล้างไตเพื่อรอเปลี่ยนไต เจติยากลุ้มใจหนักกับความทุกข์ความทรมานของผู้เป็นมารดา ประกอบกับ นที น้องชายที่เป็นความหวังของครอบครัว กลับมีความประพฤติก้าวร้าวหนักและเอาแต่ใจเพิ่มขึ้น มันทำให้เธอเครียดและวิตกกังวลอย่างมาก ไม่นานต่อมา เจติยาได้รับกล่อง “รากบุญ” มาจากเพื่อนสูงวัยที่ชื่อ ลุงทวี (ญาณี ตราโมท) ซึ่งทำงานตบแต่งศพที่บริษัทนิราลัยด้วยกัน โดยกล่องรากบุญเป็นกล่องสีดำสนิท ถูกแกะสลักเป็นรูปยักษ์อ้าปาก และไม่สามารถเปิดออกเองได้ แม้กล่องจะไม่ได้ถูกปิดล็อคก็ตาม ลุงทวีบอกความลับของกล่องลึกลับใบนี้ให้หล่อนพิจารณา เพื่อใช้คลี่คลายปัญหาในครอบครัวอย่างที่ชายชราเคยทำมาก่อนแล้ว ทั้งนี้เจติยาจะต้องทำความดีให้ครบสามอย่างเป็นการแลกเปลี่ยน แล้วจะสามารถขอพรจากกล่องนี้ได้หนึ่งอย่าง แต่มีข้อแม้ว่าต้องทำความดีนั้นให้สำเร็จในเวลาหนึ่งเดือน ไม่เช่นนั้นเธอจะต้องตาย และนอกจากนี้ยังไม่สามารถทิ้งกล่องนี้ไปได้จนกว่าจะหาผู้ครอบครองคนใหม่มารับหน้าที่แทนได้ เมื่ออับจนหนทาง ในที่สุดเจติยาจึงตอบรับการสืบทอดถือครองกล่องลึกลับต่อจาก คุณสารัช (สมมาตร ไพรหิรัญ) เจ้าของบริษัทนิราลัย บิดาของ ลาภิณ (พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) หรือ ต้น ซึ่งเพิ่งตายจากไป โดยมีลุงทวีเป็นผู้ให้คำแนะนำและคำเตือนกับเธอ ภายหลังจากบิดาของลาภิณตาย พิสัย (โกสินทร์ ราชกรม) น้าชายผู้เป็นน้องชายของ นางชูจิต (อภิรดี ภวภูตานนท์) แม่ของเขาเป็นผู้ดูแลบริษัทนิราลัยซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับจัดการศพครบวงจรตลอดมา และพยายามกีดกันมิให้ลาภิณ ซึ่งเป็นทายาทตัวจริงมายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจเพื่อหวังกอบโกผลประโยชน์อย่างเต็มที่ ลาภิณจึงขอร้องให้แม่ซึ่งเป็นประธานบริษัทช่วยเหลือเขา ซึ่งทำให้พิสัยไม่อาจขัดขวางได้