เช้าวันฝนตกในกรุงเทพฯ “แพท”(มชณต สุวรรณมาศ) ทนายสาววัย 32 ปี กำลังใช้ความพยายามสุดชีวิตเพื่อจะฝ่าฟันการจราจรสุดคับคั่งของเมืองหลวงเพื่อขึ้นเครื่องบินไปทำงานที่เชียงใหม่ให้ทัน แต่โชคร้ายเมื่อจักรยานยนต์รับจ้างที่เธอนั่งถูกแย่งไปด้วยฝีมือของ “วสุ” (จรณ โสรัตน์) นักการเมืองรุ่นใหม่ที่กำลังใจร้อนเพราะรีบไปศาลเพื่อรับฟังคดีการถูกลักพาตัวไปของพ่อ จึงทำให้แพทแอบหมายหัววสุไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ
แพทเป็นทนายสาวแกร่งไฟแรงที่ทำงานอยู่ในสำนักงานกฎหมายมวลชล ก่อตั้งโดย “มโนธรรม” (ผศ. รัชด ชมภูนิช) ทนายน้ำดีที่ได้รับรางวัลสิทธิมนุษยชน ทำให้คดีต่าง ๆ ที่เข้ามามักเป็นคดีที่ผู้คนมาขอความช่วยเหลือเป็นส่วนใหญ่จนถูกบ่นจากผู้จัดการสำนักงานอยู่บ่อย ๆ ว่ารับทำแต่คดีที่ได้บุญแต่ไม่ได้เงิน ยังดีที่มี “คมกฤช” (เปี่ยมชล ดำรงสุนทรชัย ) หนุ่มรุ่นน้องสายเนิร์ดที่คอยเป็นลูกคู่คอยพูดแทนแพทอยู่ตลอด จริง ๆ แล้วคมกฤชเห็นแพทเป็นไอดอลและแอบชอบเธอมาโดยตลอด
เมื่อแพทกลับมากรุงเทพฯ เธอได้เจอกับ “ไป๋” (สาธิดา ปิ่นสินชัย) เพื่อนสนิทนักข่าวสาวที่กำลังเมาหยำเป แพทจึงพาไป๋กลับคอนโดแล้วก็ได้พบว่าไป๋กับ “แม็กกี้”(ณฐนันท อัครกิจวัฒนากุล) ผู้ช่วยสาวของวสุที่เธอเจอวันก่อนอยู่คอนโดเดียวกัน ระหว่างที่เมา ไป๋ไลฟ์สดการเจอกันของวสุและ “ณรงค์ฤทธิ์” นักการเมืองหัวอนุรักษ์ไว้ได้พอดี กลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ เพราะทั้งสองคนเป็นนักการเมืองที่อยู่คนละขั้ว
แพทขับรถไปส่ง “พะพาย”(ณัฐกฤตา รำมะนู) ลูกสาววัย 14 ปีของเธอที่โรงเรียนแล้วเกิดทะเลาะกัน เรื่องที่แพทไม่ยอมซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ให้พะพายทั้งที่เธอหมายมั่นปั้นมือจะเป็นเกมเมอร์แต่ยังไม่ทันจะเคลียร์กันดี แพทก็ถูกเรียกตัวให้ไปเป็นทนายให้กับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านโรงงานแต่งแร่ถ่านหินที่นำโดย “ทัด” เมื่อไปถึงโรงงาน แพทก็ได้เจอกับวสุอีกครั้ง เนื่องจากเหตุประท้วงเกิดในพื้นที่ซึ่งเขากำลังจะลงเลือกตั้งพอดี ทั้งคู่เขม่นกันเพราะรู้สึกว่าหนีหน้ากันไม่พ้น
ขณะเดียวกันเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงงานเคมีภัณฑ์ซึ่งเป็นโรงงานในเครือบริษัท SFC เหมือนกัน บังเอิญเหลือเกินว่าผู้จัดการโรงงานนั้นคือ “เอกรงค์”(เทมส์ สรรพกิจ) คนรักเก่าของแพทซึ่งมีฐานะเป็นพ่อของพะพายด้วย แต่ทั้งคู่เลิกรากันไปโดยที่เอกรงค์ไม่รู้ว่าแพทท้องพะพายอยู่ แพทเข้าไปเกี่ยวข้องกับอีกหลายคดี และทุกคดีก็จะต้องเจอวสุที่เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อต้องทำงานและลงพื้นที่ด้วยกันบ่อยเข้าทำให้ทั้งคู่เริ่มเกิดความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน
ฝั่งพะพายก็เริ่มทำงานพิเศษเพื่อเก็บเงินซื้อคอมพิวเตอร์โดยไม่บอกแพทและได้บังเอิญเจอกับเอกรงค์ เอกรงค์เห็นนามสกุลของพะพายที่ปักอยู่บนปกเสื้อจึงชวนคุยแล้วก็ได้รู้ว่าแพทเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เอกรงค์พยายามกลับมาจีบแพทอีกครั้งโดยผ่านการช่วยเหลือของพะพาย
คดีที่แพทและวสุเข้าไปเกี่ยวพันท้าทายและอันตรายขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะคดีโรงงานเคมีภัณฑ์และแต่งแร่ถ่านหินที่เกี่ยวข้องกับบริษัท SFC เมื่อ “อนุชิต” (กีรติ ศิวะเกื้อ) ลูกชายของเฮียซอ เจ้าของบริษัทหวังจะกำจัดสองคนไปให้พ้นทางเพราะต้องการจะปกปิดความผิด ยิ่งเมื่อทั้งคู่สืบเกี่ยวกับบริษัท SFC มากขึ้นก็ยิ่งมองเห็นความเป็นไปได้ที่ปลัดวงศ์ พ่อของวสุที่หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้เช่นกัน เรื่องงานที่ทำอยู่ก็สุ่มเสี่ยงจะเกิดอันตราย ไหนจะปัญหาเรื่องครอบครัวและหัวใจที่ซับซ้อนขึ้น เรื่อย ๆ ติดตามได้ในละคร...