ภัยธรรมชาติได้ทำลายการแต่งงานของกุลสตรีคังเป่าฉี(เติ้งชุ่ยเหวิน)และราชาข้าวอู๋ซีเจียงเฉียว(เยี่ยหัว) เนื่องจากไม่สามารถส่งข้าวให้ทางการตามที่กำหนด ทำให้นางและครอบครัวตกระกำลำบากกลายเป็นนักโทษของราชสำนัก หลายปีมานี้ จิตใจของเป่าฉียังคงถวิลหาเจียงเฉียวที่ละทิ้งการแต่งงานไป นางคิดหาหนทางเพื่อพิสูจน์ว่าชายที่นางรักไม่ใช่คนไร้หัวใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง เป่าฉีและเจียงเฉียวพบกันโดยบังเอิญโดยสานรักที่มีต่อกันต่อไปจนเป่าฉีได้แต่งงานเป็นคุณนายสี่บ้านสกุลเจียงอย่างราบรื่น หลังจากที่แต่งงานเข้าบ้านสกุลเจียง เป่าฉีมักถูกหยิ่นฟ่งอี๋(เซี่ยเสี่ยซิน)คุณนายใหญ่และเผิงเจียว(ซางเทียนเอ๋อ)คุณนายรองกดขี่ข่มเหงเสมอ แต่นางก็เจียมตัว ไม่ผูกใจเจ็บ การเห็นแก่ส่วนรวมเป็นสำคัญจึงทำให้วิกฤตเปลี่ยนเป็นโอกาส ทำให้เจียงเฉียวซึ่งยึดมั่นในคุณธรรมเกิดความเลื่อมใสในเจตคติและความเข้มแข็งของเป่าฉี ต่อมาเจียงเฉียวป่วยหนักก่อนสิ้นใจ เจียงเฉียวได้มอบกิจการข้าวให้อยู่ในการดูแลของเป่าฉี ด้วยหวังว่านางจะเลือกสรรผู้เหมาะสมสืบทอดกิจการข้าวต่อไป
ด้วยภารกิจอันหนักอึ้งทำให้เป่าฉีกลายเป็นเป้าปองร้าย กระนั้นนางก็ยังคงยึดมั่นในเจตนารมณ์ของเจียงเฉียว ด้วยการดูแลกิจการข้าวเป็นอย่างดี เลือกสรรผู้เหมาะสมสืบทอดกิจการข้าว ในที่สุดเป่าฉีก็พบว่าคุณชายรองเจียงปี้เจิ้ง(อู๋จัวซี)ซึ่งภายนอกดูเหมือนว่ารักสนุกหาความสำราญไปวันๆ ที่แท้เป็นคนซื่อตรง ยึดมั่นในคุณธรรม ท่ามกลางการแก่งแย่ง เป่าฉีตัดสินใจให้การสนับสนุนเจียงปี้เจิ้งเป็นผู้สืบทอดกิจการข้าวต่อไป ไฉจิ่ว(หลีเย่าเสียง)หอบเอาความเคียดแค้นมาที่บ้านสกุลเจียงด้วยหวังล้างแค้นให้สำเร็จ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้บ้านสกุลเจียงพังพินาศ ทำให้เป่าฉีรับมือไฉจิ่วทุกรูปแบบ หลังจากที่งัดข้อกันอยู่นาน ทั้งสองต่างก็รู้ใจกันและกันมากขึ้น ทำให้ ไฉจิ่วมีใจปฏิพัทธ์ต่อเป่าฉีขึ้นมา