นักแสดงสหรัถ สังคปรีชาเมทินี กิ่งโพยมสุวัจนี ไชยมุสิกกรุง ศรีวืไลไพโรจน์ ใจสิงห์นพพร กำธรเจริญปิยะมาศ โมณยะกุลตะวัน จารุจินดาวิชัย จงประสิทธิ์พรดารณีนุช โพธิปิติวิสรรค์ ฉัตรรังสิกุลเรื่องราวการฟันฝ่าอุปสรรค และการพิสูจน์ความรักระหว่าง โยธิน(สหรัถ สังคมปรีชา) หนุ่มนักเรียนนอก ที่เดินทางไป ศึกษาต่อปริญญาโทด้านโฆษณาที่ชิคาโก้ สหรัฐอเมริกา และจีจี้ (เมทินี กิ่งโพยม) สาวไทยที่เติบโตและศึกษาด้านการออกแบบเสื้อผ้า ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตคู่ อยู่กันก่อนการแต่งงานมาตั้งแต่สมัยที่โยธินไปศึกษาต่อที่นั้น โดยที่จีจี้หารู้ไม่ว่า กำนันเสือ (ไพโรจน์ ใจสิงห์) แห่งลำทะเมนชัย อำเภอหนองบัวลำใย จังหวัดนครราชสีมา พ่อของโยธินนั้นเป็นหัวโบราณสุด ๆ และยังต่อต้านการใช้ชีวิตคู่ ก่อนการแต่งงาน ของหนุ่มสาวอย่างสุดตัว เพราะคิดว่าเป็นการทำลาย ระบบครอบครัว และเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าหญิงสาวนั้น ไม่มีความรักนวลสงวนตัวเอาเสียเลย อีกทั้งยังเหมารวมไปว่า เป็นหญิงใจง่าย และกำนันเสือก็ประกาศออกไปแล้วว่าลูกสะใภ้ของกำนันเสือ จะต้องเป็นหญิง ที่เป็นกุลสตรี และไม่มีรอยมลทินใดๆ ทั้งสิ้นเมื่อจีจี้และโยธินเดินทางกลับมาเมืองไทย ได้มาอาศัยบ้านเช้าที่ โด่ง (นพพร กำธรเจริญ) เพื่อนสนิทของโยธิน ตั้งแต่อยู่บ้านนอกด้วยกันหาให้ โดยโยธินบอกให้โด่งเก็บเรื่องการกลับมาเมืองไทย ของตนเป็นความลับ แต่แล้วโด่งก็เผลอบอกกำนันเสือ จนได้ทำให้ครอบครัวของกำนันเสือ อันประกอบไปด้วย แม่หยก (ปิยะมาศ โมณยะกุล) แม่ของโยธิน อดีตสาวงามประจำตำบล ที่มีความสามารถ ในการทำอาหารเป็นเลิศ ยอดชาย (ตะวัน จารุจินดา) น้องชายคนเดียวของโยธิน ผู้ที่มีความรัก ในความเป็นไทยอย่างแรงกล้า ถืออคติ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ” และ ไอ้ทอง (วิชัย จงประสิทธิ์พร) คนขับรถ ผู้ซื่อสัตย์ของกำนันเสือ ทั้งหมดพากัน เดินทาง เข้ากรุงเทพฯ เพื่อจะทำ เซอร์ไพรส์โยธินแต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เมื่อพวกกำนันมาถึงและโยธินได้ออกไปธุระเรื่องงาน จีจี้ซึ่งได้รับคำเตือนจาก มิเชล (ฟร้อน มอนท์โกเมอรี่) เพื่อนสาวที่เคยใช้ชีวิตด้วยกันที่ชิคาโก้ ให้ระวัง ผู้ร้ายในเมืองไทยให้ดี ทำให้จีจี้เข้าใจผิดว่าพวกกำนันเสือ คือโจร จีจี้ได้ใช้ไม้เบสบอล กระหน่ำตีกำนันเสือจนน่วม และจากเหตุการณ์ที่เกิดนี้เองทำให้โยธินต้องโกหกครอบครัวไปว่าจีจี้คือ สาวใช้ที่โด่งหามาให้ชื่อ “ลิ้นจี่” จีจี้ตกอยู่ในฐานะลำบากสุดฤทธิ์ ที่ต้องเป็นคนใช้ ที่เมื่อก่อนก็ทำอะไร ไม่ค่อยจะเป็น ด้านไอ้ทองก็หวังที่จะเคลมจีจี้ ส่วนแม่หยกก็คอยแต่จะให้จีจี้เข้าครัว เป็นลูกมือทำอาหาร ทั้งที่เธอ ทำอาหารไทยไม่เป็นทางด้านยอดชายดู เหมือนจะมีปัญหากับจีจี้น้อยที่สุด แต่เขากลับมีปัญหา ส่วนตัว ที่ยากจะแก้ไข เพราะยอดชายเกิดตกหลุมรักและแอบตามจีบ หมูหยอง (กรรณิการ์ ซาย วนะเกียรติกุล) เด็กสาวข้างบ้าน ที่มีความประหลาดอยู่ในตัว คืออยู่บ้านจะเรียบร้อยเล่นดนตรีไทย แต่พอออกนอกบ้าน จะแต่งตัวเปรี้ยว แก่นและซ่าส์ ทำให้ยอดชาย ตกใจมากที่สาวเรียบร้อยในฝันของเขา กลายเป็นเด็กสายเดี่ยว เขาพยายามดึงเธอกลับมาเหมือนเดิม แต่มันยิ่งทำให้หมู่หยอง เบื่อและเซ็งหน้าเขาไปอีก หมูหยองเป็นลูกของ กอบ (วิสรรค์ ฉัตรรังสิกุล) ข้าราชการการรถไฟ เพื่อนบ้านของโยธินที่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน และ คุณครูระเบียบ (ดารณีนุช โพธิปิติ) คุณครูฝ่ายปกครองของโรงเรียนเอกชน ที่ชอบจัดระเบียบเข้มงวดเกินเหตุให้กับครอบครัวของตัวเอง ทำให้หมู่หยองต้อง แอบไปมีอิสระนอกบ้าน ในขณะเดียวกัน จีจี้เริ่มรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่ในสภาพคนใช้ เลยคิดแผนกับโยธินให้ลิ้นจี่ลาออกจากการเป็นคนใช้แต่เหตุการณ์ก็ไม่เป็นใจอีกครั้ง เมื่อจีจี้ไปซื้อส้มตำร้านที่ตำได้อร่อยมาก มาให้แม่หยกกินจนติดใจ และคิดว่าลิ้นจี่ทำเอง เลยบังคับให้ลิ้นจี่เป็นตัวแทนตำบล เพื่อเข้าแข่งขันตำส้มตำประจำปี ของจังหวัด ที่จัดขึ้นอย่างใหญ่โต จีจี้และโยธินไม่อาจจะปฏิเสธได้ เพราะกำนันเสือได้ออกปากว่า ถ้าลิ้นจี่ตำส้มตำชนะ จะยกโทษให้ในเรื่องที่จีจี้ทำร้ายกำนันเสือ จีจี้เลยตกลงรับปากที่จะเป็นตัวแทนตำบลแข่งตำส้มตำให้ ด้วยความหวังที่ว่าถ้าฟลุคชนะ กำนันเสือจะยกโทษให้ และเธออาจจะได้บอกฐานะที่แท้จริงของเธอ ให้ทุกคนได้รู้ ทั้งหมดยกขบวนกลับลำทะเมนชัย โดยมีจีจี้เป็นความหวังในการแข่งขันตำส้มตำ แต่เธอหารู้ไม่ว่า สิ่งที่เธอจะไปเจอในการแข่งขันครั้งนี้ ไม่ใช่ครกกับสากเท่านั้น เธอต้องมาสู้รบกับ นิดา (สุวัจนี ไชยมุสิก) สาวสวยประจำอำเภอ ผู้ประกวดรางวัลต่างๆ มาแล้วทั่งภูมิภาค นิดาเป็น ลูกสาวของ กำนันหนวด (กรุง ศรีวิไล) เพื่อนซี้ของกำนันเสือ ที่หมายมั่นปั้นมือให้นิดาได้ แต่งงานกับผู้ชายรวยๆ เพื่อจะได้สบายกันทั้งชาติโดยเหยื่อรายแรกเป็นเสี่ยยันม่าร์ชื่อ แหว่ง (ธงชัย ประสงค์สันติ) พ่อบุญทุ่มผู้หลงรักนิดาสุดหัวใจหลังจากที่ ครอบครัวของกำนันเสือ ได้เดินทางมาถึงลำทะเมนชัย นิดาได้เปลี่ยนจุดมุ่งหมายจาก แหว่งเสี่ยยันม่าร์ หน้าตาด้อยพัฒนา เป็นโยธินหนุ่มนักเรียนนอกหล่อล่ำและร่ำรวย ศึกวันตำส้มตำ เริ่มอุบัติขึ้นพร้อมกับการประกาศตัวของนิดาว่าจะเป็นแชมป์ให้ได้ ความอลหม่านชุลมุนวุ่นวาย ของนิดากับลิ้นจี่เริ่มต้นขึ้น นิดาวาดลวดลายอันอ่อนช้อยและนุ่มนวลเฉพาะตัว ให้กรรมการเคลิบเคลิ้ม ในลีลาการตำส่วนจีจี้ก็ไม่ยอมแพ้ เธอเน้นการโชว์ที่หรูเริ่ดอลังการเป็นหลัก สร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับคณะกรรมการยิ่งนักเมื่อการแข่งขันสิ้นสุด ผลปรากฏว่า นิดาได้รางวัลตำอย่างมีคุณค่า และรางวัลพิเศษ โชว์เริ่ดนั้นตกเป็นของจีจี้และชาวคณะแม่หยก ทำให้แม่หยกรู้สึกถูกใจจีจี้มากโยธินและจีจี้กระโดดกอดกัน ด้วยความดีใจต่อหน้าต่อตากำนันเสือ ทำให้กำนันเสือเสียหน้ามาก ที่ลูกชายกำลังกอดกับคนใช้ เลยสั่งประกาศหมั้นโยธินกับ นิดา ต่อหน้าต่อตาคนในหมู่บ้าน เมื่อจีจี้ได้ยินเช่นในก็เสียใจและน้อยใจ ที่กำนันเสือไม่รักษาคำพูดที่ให้ไว้กับเธอ จีจี้เลยหนีกลับ กทม. โดยไม่บอกโยธิน โยธินออกตามหาจีจี้ที่กรุงเทพฯ เพื่อจะบอกกับจีจี้ว่าเขาตัดสินใจ ที่จะเล่าความจริง ให้กับกำนันเสือและครอบครัวรู้เรื่องจีจี้ซะที แต่ในขณะนั้นเองกำนันเสือเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ ทำให้ต้อง เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล โยธินจึงขอร้องจีจี้ว่าให้รักษาความลับเรื่องจีจี้เป็นคนใช้ไปอีกระยะ จนกว่ากำนันเสือจะหายดี และยังขอร้องให้จีจี้ช่วยดูแลกำนันเสือด้วย จีจี้จำใจรับปากโยธิน แม้ต้องเผชิญหน้า กับฤทธิ์เดชของกำนันเสืออีกหลายครั้งก็ตาม และด้วยความดีของจีจี้ ทำให้กำนันเสือ เริ่มยอมรับในตัวสาวใช้จำเป็นระหว่างนั้นนิดาได้ หลอกให้แหว่งพามากรุงเทพฯเพื่อหาความจริงเรื่องจีจี้ และมาตื้อเอาอกเอาใจ โยธินไปในตัว และแล้วในวันที่โยธินและจีจี้ได้ตัดสินใจ ที่จะบอกความจริง ให้กำนันเสือและแม่หยกรู้นั้น ความลับได้แตกซะก่อนโดยแหว่งและนิดา ทำให้กำนันเสือ โกรธโยธิน และจีจี้มาก จีจี้ไม่ต้องการ ให้ตัวเองมาเป็นต้นเหตุของความบาดหมางและแตกแยกในครอบครัว เธอเลยหนีออกจากบ้าน และ วางแผน ที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาเพียงลำพังคนเดียว โยธินได้ออกตามหาจีจี้ จนเกือบพลิกแผ่นดิน และในที่สุดก็ได้เจอจีจี้ โยธินกับจีจี้ตกลงกันว่าจะหนีความวุ่นวายทั้งหลาย โดยการกลับไปใช้ชีวิต ร่วมกันที่อเมริกา