นักแสดงเคลลี่ ธนพัฒน์ รับบทเป็น เกียรติโสภิตนภา ชุ่มภาณี รับบทเป็น หอมจันทร์ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ รับบทเป็น น้ำตาลสุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ รับบทเป็น ชะโอดพนม นพพร รับบทเป็น บุญธรรมวิยะดา โกมารกุล ณ นคร รับบทเป็น พิมพ์จิตเกียรติ หนุ่มนักเรียนนอก ลูกชายมหาเศรษฐี ถูก พักตร์พริ้ง ผู้เป็นแม่บังคับให้แต่งงานกับ นงค์นาฏ ผู้หญิงที่เลือกให้ ขณะที่ บันลือ ผู้เป็นพ่อไม่เห็นด้วยนักกับความจุ้นจ้านของภรรยา เกียรติบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ที่สุดก็ทนการรบเร้าไม่ไหว จำใจต้องยอมแต่งงาน แต่แล้วในวันแต่งจู่ ๆเจ้าสาวก็โดนแฉว่าท้องแล้ว พร้อมกับสามีของเจ้าสาวพาพรรคพวกมาขอเมียคืน พิธีจึงต้องยุติลงพร้อมความเสียใจ และการเสียหน้าของบรรดาญาติทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะเกียรตินั้นอับอายขายหน้าแขกเป็นอันมาก ขณะที่พักตร์พริ้งนึกโกรธแค้น ประกาศในงาน ว่าจะหาผู้หญิงที่เหมาะสมกับลูกชายมาแต่งงานใหม่ในเร็ว ๆ นี้ ความอลหม่านวุ่นวายในงาน แม้จะทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกแย่ แต่สำหรับ อรวี เพื่อนสาวของเกียรติ และจรุงจิตสาวใหญ่รุ่นพี่ เรื่องนี้กลับจุดประกายความหวังในใจ ทั้งคู่ต่างหมายมั่นว่าตนเองจะต้องเป็นเจ้าสาวตัวจริงของเกียรติให้จงได้เกียรติหนีออกจากงานหลบมาเดินเล่นทอดอารมณ์ที่สะพานใกล้ๆ โดยมีคนสวนชื่อบุญธรรม เดิมตามมาห่างๆ ทั้งคู่ได้พูดคุยกันถึงชีวิตในอดีตของบุญธรรม ที่แม้จะยากจนแต่ก็มีความสุข บุญธรรมเล่าว่า แกมีบ้านอยู่ปากน้ำโพ หาเช้ากินค่ำ พออายุใกล้สามสิบเพื่อนบ้านให้เรือมาลำหนึ่ง ก็หาเงินซื้อของใส่เรือ แล้วล่องไปขาย ชีวิตอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ค่ำไหนนอนนั่น ขายของหมดที่ไหนก็หาตลาดใกล้ ๆ ซื้อของเร่ขายต่อ ก็สนุกและเป็นอิสระ ได้พบปะผู้คนมากมาย ที่ไม่เคยพบสาว ก็ได้เจอสาวสวยแตกต่างกันไป บุญธรรมเองก็ได้เมียเพราะล่องเรือขายของ แต่เมียของเขามาเสียชีวิตไปก่อน บุญธรรมก็เลยยุติชีวิตล่องเรือแล้วมาเป็นคนสวน คืนนั้นเกียรติปรึกษาพ่อ ขอไปใช้ชีวิตเป็นตัวของตัวเองสักพัก บันลือเห็นใจลูกจึงอนุญาต แต่ก็ไม่วายห่วง จนเกียรติบอกว่าการไปครั้งนี้จะเอาบุญธรรมไปด้วย บันลือจึงคลายวิตกลงเกียรติล่องเรือลำใหญ่ทาสีฉูดฉาดไปตามลำคลอง ข้างเรือมีป้ายเขียนว่า“มินิมาร์ทลอยน้ำ” ในเรือประกอบด้วยสินค้าแทบทุกชนิด ห้อย วาง แขวน อย่างมีระเบียบ บุญธรรมเป็นคนบังคับเรือ เกียรติพูดออกเครื่องขยายเสียงโฆษณาชวนเชื่อ ตลอดที่เรือผ่าน พอมีลูกค้าริมคลองเรียก ก็แวะขายของเป็นรายทางไป บุญธรรมอารมณ์ดีขายไปร้องเพลงไป เกียรติชอบใจบอกให้บุญธรรมสอนเพลงลูกทุ่งให้บ้าง บุญธรรมจึงแนะให้หาเครื่องเสียงมาหัดร้องกันในเรือว่างเมื่อไหร่ก็ร้องไป สนุกๆ เดี๋ยวก็ชำนาญ ด้วยอารมณ์สนุกเรือผ่านบ้านไหนบุญธรรมก็ยุให้ร้องเพลงจีบสาว จนสาวสองฝั่งน้ำหลงรักเกียรติมากมาย บางครั้งจีบผิดไปจีบเอาคนมีสามีแล้วก็ต้องหักหัวเรือหนีแทบไม่ทัน มันเป็นความสนุกแปลกใหม่จนทำให้เกียรติถึงกับลืมบ้าน หลงใหลอยู่กับเรือและธรรมชาติชนบทริมน้ำ โดยเขาเปลี่ยนชื่อใหม่ในฐานะพ่อค้าว่า “รักเร่”วันหนึ่ง รักเร่อยากหัดบังคับเรือ แต่พลาดไปทำเรือข้าวแกงเร่ของ พิมพ์จิต และหอมจันทร์ ลูกสาวล่มหม้อข้าวหม้อแกงจมหายต้องดำผลุดดำว่ายหากันจ้าระหวั่น 2หนุ่มช่วยพา2สาวขึ้นจากน้ำ และชดใช้ค่าเสียหายให้ ทั้งคู่จอดเรือใกล้ ๆ บ้านหอมจันทร์เพื่อช่วยซ่อมเรือ อีกทั้งเป็นโอกาสที่รักเร่จะได้ใกล้ชิดหอมจันทร์ เพราะทั้งคู่สะดุดใจกันตั้งแต่แรกเห็น พิมพ์จิตและลูกเป็นคนจน มีความเป็นอยู่ง่าย ๆ แต่มีน้ำใจ เมื่อทั้งคู่ช่วยซ่อมเรือ 2 แม่ลูกก็จุนเจืออาหารการกินให้เพราะความไม่ชำนาญงานช่าง รักเร่พลาดถูกเลื่อยบาด บุญธรรมจึงพาไปคลินิกใกล้ๆจนได้รู้จักกับ กันยา พยาบาลสาวพราวเสน่ห์ประจำคลินิก กันยาหลงรักรักเร่ตั้งแต่แรกพบ จึงพยายามตามติดประชิดถึงตัว คอยเอาอกเอาใจ จนหอมจันทร์เข้าใจผิดบ่อยๆ กันยาไม่ถูกชะตากับหอมจันทร์ เพราะรู้ว่ารักเร่ชอบหอมจันทร์จึงทำทุกทางเพื่อให้เข้าใจผิดกัน เพราะหมายมั่นจะแย่งมาให้ได้ คนอย่างกันยาไม่ธรรมดา ชอบใคร หลงใคร ก็จะใช้จริตมารยาเข้าใกล้ แต่ถ้าดูใจไปแล้วไม่ปลื้มก็จะตีห่าง ก่อนหน้านี้เธอเคยคบหาหนุ่มมาหลายราย บางคนมีครอบครัวไปแล้วก็จบกัน บางคนยังแค้นกันยาอยู่ก็มี เช่นขวดนักร้องลูกทุ่งไส้แห้ง ที่หลงผิดคิดว่าเธอจริงใจด้วย เพราะกันยาเข้ามาหาเขาก่อน แต่เมื่ออยู่กันไปแล้วไม่เห็นอนาคตเธอก็ตีจากเขาเอาดื้อ ๆเช่นกันพักตร์พริ้งต่อว่าบันลือที่ปล่อยลูกชายไป แต่บันลือกลับไม่สน มีแต่ตัวเธอที่ร้อนใจ เพราะได้ไปตกลงกับเพื่อน ขอลูกสาวเอาไว้ให้แต่งกับลูกชายอีกแล้ว แต่เมื่อฝ่ายชายไม่อยู่จึงต้องเลิกล้ม เรื่องการหายตัวไปจากสังคมของเกียรตินั้น คนที่ดูจะร้อนรนพอๆกับผู้เป็นแม่ก็เห็นจะเป็นสองสาวต่างวัย อรวี และ จรุงจิต อรวีเป็นเพื่อนสาวไฮโซรุ่นราวคราวเดียวกับเกียรติ จึงเข้าไปตีสนิท เข้านอกออกในที่บ้านพักตร์พริ้งได้ในฐานะเพื่อนของลูกชาย ส่วนจรุงจิตนั้นเป็นสาวไฮโซรุ่นใหญ่กว่ากันนิด จึงได้แต่พบปะสนิทสนมกันเฉพาะในงานสังคม เมื่อทั้งคู่แอบพอใจเกียรติและหมายมั่นจะเป็นสะใภ้ของพักตร์พริ้ง จึงคอยเงี้ยหูฟังข่าวคราวของเขาเสมอสายใจ ลูกสาวเศรษฐีสน เศรษฐีที่นา เธอเป็นลูกค้าเรือรักเร่ วันนี้เรือมาจอดที่ท่าบ้านสายใจ เธอจึงลงไปซื้อของ พอเศรษฐีสนเห็นเข้า ด้วยความหวงลูกสาวจึงตะโกนไล่ให้รักเร่ไปจอดที่อื่น ยิ่งเห็นสายใจลงไปในเรือก็ยิ่งโกรธมาก รักเร่อ้อนวอนยังไงเศรษฐีสนก็ไม่ยอม บุญธรรมจึงออกอุบายเชิญเศรษฐีสนลงไปดูสินค้าในเรือ แล้วเอาเหล้าที่มีขายออกมาให้ดู เท่านั้นเองคอสุราอย่างเศรษฐีสนก็ตาลุกเชิญทั้งสองไปกินเหล้ากันบนบ้าน ยิ่งดึกยิ่งเมาเขาก็ยิ่งใจดี เชื้อเชิญให้ทั้งคู่ค้างที่บ้านได้ แต่พอเช้าสร่างเมาก็ลืมหมด แถมโกรธคว้าปืนมาไล่ยิงจนทั้งคู่หนีลงเรือกันแทบไม่ทันชะเอม เจ้าของร้านค้าของชำในตลาด แม่หม้ายเรือพ่วง 2 ลำคือ เจ้าชะโอด และเจ้าชะอม กำลังต่อว่า ชะโอด ลูกคนโต ที่ไปหลงรัก น้ำตาล ลูกสาวใหญ่ เจ้าของโรงสีที่ไม่ถูกกัน เพราะขัดผลประโยชน์ทางการค้า แต่ชะโอดรักน้ำตาลจึงไม่ยอมฟัง ยิ่งทำให้ชะเอมโมโหหนัก คาดโทษต่างๆ นานา พาลด่าไปถึงใหญ่และลูกสาวรักเร่ล่องเรือมาจนถึงท่าหน้าโรงสีของใหญ่ เลยได้รู้จักกับน้ำตาล ใหญ่ปล่อยให้รักเร่คุยกับน้ำตาลเพราะหวังจะให้มาซื้อของใส่เรือไปขาย ชะโอดมาเห็นเข้าก็หึงหวงเพราะเข้าใจผิด จนรักเร่ต้องเล่าเรื่องหอมจันทร์ให้ฟังและรับปากจะช่วยชะโอดให้สมหวังกับ น้ำตาล ทำให้ชะโอดดีใจ เผยเรื่องของแม่ตนกับพ่อน้ำตาลที่ไม่ค่อยลงรอยกันให้ฟัง รักเร่รู้สึกเห็นใจชะโอดมากขึ้นระหว่างที่เรือยังซ่อมไม่เสร็จ พิมพ์จิตและหอมจันทร์ต้องขาดรายได้ไป รักเร่จึงแบ่งที่ทางในเรือ ให้ 2 แม่ลูก ล่องเรือค้าขายไปด้วยกัน จนเรือซ่อมเรียบร้อยดี รักเร่จึงได้ความคิด เสนอให้นำเรือข้าวแกง มาพ่วงกับเรือของเขา พิมพ์จิตแม้จะเกรงใจ แต่ก็จนด้วยเหตุผลที่รักเร่เสนอมา จนต้องยอมตามใจในที่สุด มินิมาร์ทลอยน้ำ พ่วงเรือข้าวแกงรสเด็ด ค้าขายดีวันดีคืนทั้ง2 ฝ่าย ใครมาซื้อของใช้ก็แวะซื้อข้าวแกง ส่วนใครมากินข้าวแกงก็ยังแวะลงเรือซื้อโน่นนี่ติดมือกลับบ้าน ขณะที่ความสัมพันธ์ของรักเร่และหอมจันทร์ดูจะแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ แต่อุปสรรคก็มีมาให้รำคาญใจกันเป็นระยะๆ ทั้ง กันยา ที่หาทางมาใกล้ชิดสนิทสนม เธอทำทีมาขอใช้เรือออกแจกจ่ายยาชาวบ้าน หรือแม้แต่ สองสาวชาวกรุงที่สืบรู้ที่อยู่ ยังแอบตามมาเกาะแกะถึงที่ จนเกิดการขัดแข้งขัดขากันเองในหมู่นางร้าย อรวีอาศัยความสนิทสนมมาขอนั่งเรือล่องท่องเที่ยวบ้าง ขอค้างในเรือบ้าง บุญธรรมก็ช่วยพูดช่วยสกัดเต็มกำลัง ส่วนจรุงจิตนั้นร้ายลึก เพราะแอบสืบหาข้อมูลมาอย่างดีว่ารักเร่รู้จักสนิทสนมกับใครบ้าง เธอทำทีมาเยี่ยมเยือนเขา และตั้งใจจะมาบ่อย ๆ โดยเสนอเป็นค่าปิดปากจนรักเร่ต้องยอมตามใจ แต่ขณะเดียวกันแฝงตัวมาเป็นลูกค้าข้าวแกงแล้วแอบแกล้งหอมจันทร์ด้วย กว่าจะรู้ตัวหอมจันทร์ก็โดนแกล้งไปแล้วหลายครั้งหลายหน รักเร่รำคาญจะไล่กันยาไปพ้นๆแต่เธอก็มาฟอร์มดีจนออกปากไล่ไม่ออก จะไล่สองสาวก็กลัวจะแฉความจริงเรื่องตัวเอง จึงจำยอมตามใจพวกเธอ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้หอมจันทร์เข้าใจผิดหลายครั้ง รักเร่ต้องตามง้อเธอโดยได้รับความช่วยเหลือจากน้ำตาล ชะโอด และบุญธรรม แต่อรวีและจรุงจิตก็มักมาขวางอยู่เรื่อย บุญธรรมจึงต้องออกอุบายหลอกพาพวกเธอไปผจญภัยอยู่กลางแม่น้ำนานเป็นวัน ๆ พอกลับขึ้นฝั่งได้ อรวีก็ถึงกับลมจับ ดีที่ขวดรับได้ทันแล้วช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล การที่อรวีแวะเวียนไปหารักเร่บ่อย ๆ ทำให้ได้รู้จักขวด อรวีช่วยให้ขวดได้เป็นนักร้องด้วยการพาเขาไปฝากกับพ่อเธอที่เป็นเจ้าของค่าย เพลง ขณะที่ขวดแอบหลงรักอรวีอยู่ ทั้งคู่ได้รู้จักกันและเกิดความสัมพันธ์แนบแน่นขึ้นเรื่อยๆชะโอดแอบมาพบน้ำตาลแต่ถูกใหญ่จับได้ แล้วกล่าวโทษ แถมด่าฝากไปถึงแม่ เมื่อชะเอมรู้เรื่องเข้า ก็กลายเป็นศึกสองครอบครัวที่ยุติลงไม่ได้ง่าย ๆ ชะเอมแก้เผ็ดใหญ่โดยลดราคาสินค้าทุกชนิดตัดหน้าใหญ่จนลูกค้ามารุมซื้อของ ชะเอม ทำให้ใหญ่เดือดดาลวางแผนบีบชะเอมโดยยื่นคำขาดกับชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้ห้าม ไปซื้อของที่ชะเอมขาย ถ้าใครซื้อโดนทวงหนี้แน่และหากไม่มีให้ก็จะยึดบ้านยึดนาให้เดือดร้อน เมื่อรักเร่รู้เรื่องจึงหาทางช่วย โดยไปเชิญเศรษฐีสนมาช่วยขอร้องให้ใหญ่และชะเอมเลิกทะเลาะกัน แต่ไม่ได้ผลเพราะทั้งคู่ไม่เล่นด้วย ความเครียดหลาย ๆ ประการทำให้แม่ชะเอมล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล เศรษฐีสนซึ่งหลงรักแม่ชะเอมมานาน หอบกุหลาบที่ชะเอมชอบไปเยี่ยมหลายครั้ง ชะเอมที่มีใจรักเศรษฐีสนอยู่เช่นกันออกอาการปลื้มสุดๆ ขณะที่ใหญ่อยากไปเยี่ยมแต่ก็ยังมีทิฐิ ได้แต่แอบมอง และหมั่นไส้ทั้งคู่อยู่ลึก ๆภัสดา หลานชายเศรษฐีสน กับลูกน้องชื่อ มาร์ค มาเที่ยวและพักที่บ้านเศรษฐีสน ภัสดาเป็นลูกคนมีฐานะดีที่กรุงเทพ ทำให้ทำอะไรตามใจ จีบสาวไม่เลือกหน้า กระทั่งเกิดเรื่องกับน้ำตาล จนมีเรื่องถึงลงไม้ลงมือกัน ชะโอดก็เข้าไปเกี่ยวด้วย เดือดร้อนถึงเศรษฐีสนต้องมาปรับความเข้าใจกับใหญ่และชะเอมอีกครั้ง ภัสดามาพบหอมจันทร์เกิดหลงรัก ทำทุกทางที่จะพบและอยู่ใกล้ แต่พิมพ์จิต น้ำตาล และสายใจ คอยกีดกันไว้ รักเร่กับชะโอดจับมือกันต่อต้านภัสดา จนเกือบมีเรื่องอยู่หลายครั้ง น้ำตาลกับสายใจ เมื่อรู้ว่ารักเร่รักหอมจันทร์ ทั้งคู่ก็ให้ความร่วมมือช่วยเหลือเป็นอย่างดีชะอมและสายใจซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน เห็นน้ำตาลกับชะโอดแอบนับพบกันหลายครั้ง แต่เก็บความลับนี้ไว้ ไม่บอกแม่เพราะกลัวชะเอมจะตามไปราวีพี่ชาย ทั้งคู่จับมือกันคิดแผนการสร้างความสมานฉันท์ให้กับ 2 ตระกูล เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างชะเอมและเศรษฐีสนที่ชะอมแอบสังเกตเห็นอยู่ จึงปรึกษากับสายใจ ร่วมมือกันช่วยให้ความรักของแม่ชะเอมและพ่อสนได้สมหวังเสียที เพราะดูว่าทั้งคู่ แม้ดูใจกันมานานก็ยังไม่ยอมเปิดตัวสักที ทั้งนี้เพราะแม่ชะเอมรู้สึกอายชาวบ้าน ที่ตนเองอายุมากแล้ว ยังมีความรักเหมือนเด็กๆ แผนการทุกอย่างไปได้สวย แต่ก็มาสะดุดเมื่อมารู้ภายหลังว่า ความจริงแล้ว พ่อใหญ่นั้นมีใจแอบรักแม่ชะเอมอยู่เหมือนกัน เรื่องนี้สร้างความร้าวฉานให้กับน้ำตาลและชะโอด เมื่อน้ำตาลโกรธที่ชะโอดไม่ช่วยพ่อใหญ่ ส่วนชะโอดไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าแม่มีใจให้เศรษฐีสนแล้วกันยาที่พยายามตามติดรักเร่มานาน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่ารักเร่จะสนใจเธอ พอได้เจอคนหน้าตาดีแถมร่ำรวยอย่างภัสดา ก็อดไม่ได้ที่จะหว่านเสน่ห์ใส่ ภัสดาเองก็เจ้าชู้ เขามองกันยาอย่างถูกตาต้องใจอยู่เช่นกันจรุงจิตคิดแผนร้าย ส่งคนมาขโมยของที่บ้านหอมจันทร์ ก่อนจะทำทีมาเสนองานให้ 2 แม่ลูก ไปขายข้าวแกงที่ร้านของเธอในกรุงเทพ โดยงานนี้เสนอค่าแรงก้อนโต พิมพ์จิตดีใจ ตกลงทันที ขณะที่หอมจันทร์ยังระแวงสงสัย แต่จำใจต้องตามใจแม่ เมื่อรักเร่รู้เรื่องเข้า ก็พยายามขอร้องให้ทั้งคู่คิดใหม่ แต่หอมจันทร์ไม่ฟังเพราะกำลังโกรธรักเร่เรื่องที่เขามีสาว ๆ มาพัวพันหลายคน จรุงจิตขับรถมารับ 2 แม่ลูกไปที่ร้าน แกล้งทำดีด้วยสารพัด ก่อนจะใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกให้พิมพ์จิตเซ็นต์สัญญาเงินกู้ พอมารู้ภายหลังทั้งคู่ก็แทบเป็นลม แต่เมื่อแก้ไขไม่ได้ จึงต้องจำยอมทำงานใช้หนี้ไปภัสดาไปหาหอมจันทร์ที่บ้านแต่ไม่พบ จึงตามมาเอาเรื่องรักเร่ เพราะคิดว่ารักเร่รู้ที่อยู่ใหม่ของหอมจันทร์ แต่ไม่ยอมบอก จนเกิดมีเรื่องลงไม้ลงมือกัน ก่อนจะเป็นฝ่ายแพ้แล้วกลับบ้านไปด้วยความแค้นเคืองรักเร่ตามสืบจนรู้ที่อยู่หอมจันทร์ จึงไปหา แต่หอมจันทร์ไม่พูดด้วย เธอโกรธเพราะเข้าใจว่ารักเร่ร่วมมือกับจรุงจิต มาหลอกลวงเธอและแม่ รักเร่แก้ตัวอย่างไรก็ไม่ฟัง เขาจึงหันไปอธิบายให้พิมพ์จิตฟังแทน โดยตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้พิมพ์จิตฟัง และขอร้องว่าอย่าเพิ่งบอกเรื่องที่เขาปลอมตัวมา ให้หอมจันทร์รู้ โดยรับปากจะช่วยพาทั้งคู่มาจากจรุงจิตให้ได้ พิมพ์จิตแอบดีใจแทนลูกสาว เมื่อรู้ฐานะที่แท้ของรักเร่รักเร่ไปต่อว่าจรุงจิต เรื่องที่เธอทำกับ 2 แม่ลูก จรุงจิตได้ที ยื่นข้อเสนอ ให้รักเร่กลับมาใช้ชีวิตเป็นเกียรติ และคบเธอเป็นคนรัก ขณะเดียวกันก็ห้ามไม่ให้พบหอมจันทร์อีก หากทำตามก็จะยอมปล่อย 2 แม่ลูกไป รักเร่ใช้ความเจ้าเล่ห์ ออกอุบาย จนสามารถช่วยหอมจันทร์และแม่กลับมาได้ หอมจันทร์ได้ปรับความเข้าใจกับรักเร่ ขณะที่จรุงจิตซึ่งรู้ตัวว่าเสียรู้เข้าแล้ว จำใจต้องยอมวางมือจากเกมรักครั้งนี้ไป แต่ด้วยผลกรรมที่ทำไว้ต่าง ๆ นานา กับ2แม่ลูกทำให้เธอต้องจำนน มีสามีเป็นโจรรับจ้าง ที่เธอจ้างไปทำร้ายเค้า..เธอโดนขู่ โดนจ่ายค่าเลี้ยงดู แถมยังต้องพาสามีออกงานที่เชิดหน้าชูตา จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปโฉม ฐานะ ของผู้ชายคนนี้ขึ้นมาเป็นคนใหม่ที่ยืนข้างๆ เธอได้น้ำตาลไม่ยอมพูดกับชะโอดอยู่นาน แต่สุดท้ายก็เริ่มคิดได้ ว่าไม่สามารถกะเกณฑ์ให้ใครรักกับใครได้ตามที่ใจต้องการ ส่วนพ่อใหญ่ เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นสาเหตุให้ลูกสาวเป็นทุกข์ ก็เริ่มได้คิด พยายามใช้สติไตร่ตรองสิ่งที่ผ่านมา ก่อนจะทำใจได้ และกลับไปใช้ชีวิตเป็นปกติ น้ำตาลดีใจที่พ่อกลับมาเป็นพ่อคนเดิมอีกครั้งภัสดายังคงดันทุรัง ดื้อดึง เอาแต่ใจ จะเอาชนะ รักกับหอมจันทร์ให้ได้ ยิ่งรู้ว่ารักเร่มีปมเรื่องเป็นเพื่อนจรุงจิตอยู่ด้วย จึงใช้วิธีสร้างเรื่องให้ไปกันใหญ่ระหว่างรักเร่ หอมจันทร์ จรุงจิต ..รักเร่บอก ลูกผู้ชายควรสู้อย่างลูกผู้ชาย ภัสดาก็เลยท้าแข่งทุกประเภท ให้บอกกฏ กติกา มาเลย ชาวบ้านและเพื่อน ๆ ช่วยกันคิดเกมการแข่งขันมาให้ต่าง ๆ นานา และ 2 คนก็ต้องใช้ทั้งเทคนิคและปัญญา แค่เรื่องตื้น ๆ รักเร่ได้เปรียบที่คุ้นเคยธรรมชาติ และมองธรรมชาติได้ชัดเจนกว่าภัสดา จึงสามารถเอาชนะ ทำให้ภัสดากลายเป็นขี้แพ้ชวนตี หัวฟัดหัวเหวี่ยงกับเจ้ามาร์ค เศรษฐีสนเห็นแล้วกลุ้มจนต้องออกแรงออกฤทธิ์ สอนเด็กทั้ง 2 ให้รู้จักใช้ชีวิตให้เป็น ไม่ควรอยู่แบบรก ๆ คิดให้เป็น ทำให้เป็น อย่าทำตัวกลายเป็นขยะรกประเทศชาติ ภัสดา เด็กที่เอาแต่ใจ ไม่มีใครปรามมาตลอด เจอทีเด็ดเศรษฐีสนเข้า ถึงกับคุกเข่าขอโอกาสที่จะแก้ตัว..ก็เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่จะต้องให้ และคอยตามผล ว่าหลานของตัวเองจะมีพฤติกรรมต่อไปอย่างไร และควรจะให้กำลังใจกันอย่างไรบรรดาคู่รักต่าง ๆ นานามาพบปะสังสรรค์กันก็ในงานแข่งขันของ 2 หนุ่มนี้ ทำให้มิตรภาพ ความผูกพันและการใช้ชีวิตที่ดำเนินไปด้วยการช่วยเหลือ แบ่งปัน และปลูกฝังความเข้าใจให้เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ควรเร่งมือกันทำให้เห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น พวกเค้าฉลองความรักความสามัคคีครั้งนี้ด้วยเสียงเพลงที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิต เรียบๆง่ายๆ และเรื่องราวที่ผ่านมา..พร้อมกับปล่อยเรือมินิมาร์ท ลอยน้ำ ที่เป็นเรือทำมาหากิน เป็นเรือนหอของการมีชีวิตคู่ในรูปแบบที่ รักเร่กับหอมจันทร์เลือกที่จะทำ เลือกที่จะเป็น