แพน หรือพันพร เทพประทาน หญิงสาวหน้าตาดี และนาฏศิลปินสาวผู้มากด้วยฝีมือ แสดงละครรำได้อย่างประทับใจผู้ชมจนถึงขนาดเพื่อนชาวต่างประเทศของม.ร.ว. ราชาณัต เทวพันธุ์ที่ได้เข้ามาชมอยู่ด้วยขอสั่งภาพจิตรกรรมรูปแพนใส่เครื่องรำขนาด เท่าตัวจริง ชายใหญ่ปลาบปลื้มไปกับแพนจนถึงกับหลงรักและขอแต่งงานกับแพนใน ที่สุด อัน ที่จริงชายใหญ่เคยรู้จักแพนมาตั้งแต่ทั้งคู่ยังเป็นเด็กครั้งที่ชายใหญ่ได้ อพยพหนีภัยสงครามโลก พร้อมกับโรงเรียน ไปทำการเรียนการสอนอยู่ที่ผักไห่ และแพนเป็นคนท้องถิ่นที่นั่น เมื่อ สงครามยุติ กลุ่มเด็กชาวกรุงฯอพยพ อันได้แก่ ชายใหญ่ และหลานในไส้ คือเอียด เล็ก ก้อย น้อย บุตรของราศี พี่สาวของประภากับพลตรีโภคา พากันอพยพกลับบ้าน วันนั้นเองแพนได้ลอบเกาะเชือกเรือมาจนกระทั่ง เล็กมาสังเกตเห็น เมื่อดึงตัวแพนขึ้นมาบนเรือ แพนได้ขอติดตามไปเรียนที่ กรุงเทพฯ ด้วย ประภา ยินยอมรับอุปถัมภ์แพน และราศีก็ช่วยฝากแพนเข้าเรียนนาฏศิลป์ พร้อมกับตั้งชื่อให้ใหม่ ว่า พันพร เทพประทาน แทนชื่อเดิม คือแพน ดั้นนา เมื่อ ชายใหญ่ขอแต่งงานกับแพน ประภาและราศีจึงให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี แต่การที่แพนตกลงใจยอมแต่งงานกับ ชายใหญ่ทำให้หัวใจของเทิน หนุ่มจากผักไห่ ซึ่งเป็นเพื่อน และลูกไล่ของแพนมาตั้งแต่เด็กแตกสลาย เทินนั้นรักแพน และคิดว่าแพนรักเขา อย่างที่แพนแสดงออก เทินไม่เข้าใจว่า เพื่อนที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ทั้งเล่นน้ำ และเดินไปตามคันนาที่ผักไห่มาด้วยกัน ทำไมจึงทอดทิ้งเขาไปและทำทีเหมือนว่าไม่ได้เคยรักเขามาก่อน เทินพ่ายแพ้แก่ ชีวิต และหนีเตลิดไป น่าน และหทัย เป็นผู้มาพบเทินอยู่ริมทางขณะเดินทางไปที่ห้วยทราย น่านจึงพาเทินไปรักษาตัว ที่บ้านพักตากอากาศของตระกูลที่ห้วยทราย ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านพักตากอากาศของโภคาและราศี ที่นั่นเทินได้พบภาพถ่ายของตัวเขาเองในสมัยยังเยาว์วัยที่ผักไห่ พร้อมๆกับกลุ่มพี่น้องของชายใหญ่ และเล็ก เขาจึงได้รู้ว่าน่านคือหนุ่มรักสนุกผู้เล่นกล้อง ที่ครั้งหนึ่งเคยเดินทางไปที่ ผักไห่ เมื่อน่านรู้ว่าเทินเป็นใคร จึงอนุญาตให้พักใจอยู่ที่บ้านของเขาที่ห้วยทรายโดยไม่มีกำหนดเวลา