บริษัท เบญจแปลงกาย โปรดักชั่นเฮ้าส์ชื่อดังของ วิษณุ ผู้กำกับสารคดีมือรางวัล ได้รับงานตัดต่อรายการ เล่าเรื่องตึกเก่า ซึ่งมี ปาล สถาปนิกหนุ่ม ทำหน้าที่เป็นพิธีกร โดยเทปรายการเทปนี้ เป็นการเล่าเรื่องตึกเก่าของ เรือนพระวนาเทพ ที่ตั้งอยู่ ณ อำเภอนางบาป ซึ่งว่ากันว่าเดิมทีอำเภอนี้ชื่อว่า อำเภอบางบาป แต่ที่เพี้ยนมาเป็นชื่ออำเภอนางบาป ก็เพราะวีรกรรมของนางหยาดทาสใจบาปในตำนาน ซึ่งหลงรักพระวนาเทพ ข้าราชการหนุ่มที่มาดูแลกิจการค้าซุงที่บางบาป และตัดสินใจตั้งรกรากแต่งงานกับ คุณกำไล โดยมีนางหยาดทาสรับใช้คนโปรดของคุณกำไลตามมารับใช้ด้วย คุณกำไลแต่งงานกับพระวนาเทพจนมีบุตรสาว 2 คน นางหยาดได้โอกาสยั่วยวนพระวนาเทพ จนมันได้กลายเป็นเมียทาสในที่สุด นางหยาดเที่ยวไปลือว่ามันจะได้ปลดแอก และพระวนาเทพจะแต่งตั้งมันให้ขึ้นมาเสมอคุณกำไล แต่สุดท้ายกำไลก็ตั้งท้องลูกคนที่ 3 ทำให้นางหยาดแค้นใจมาก จึงคิดวางยาคุณกำไลที่ตั้งท้องอ่อนลูกชายอยู่และลูกสาวอีกสองคนจนถึงแก่ชีวิต เหล่าบรรดาทาสเมื่อรู้เรื่อง ก็โกรธแค้นและรักตัวกลัวความผิดจะสาดทอดมาถึงตัวเอง จึงรวมหัวกันนำร่างของนางหยาดไปแขวนคอที่ใต้ต้นไม้ในเรือนวนาเทพ ความโหดร้ายของนางหยาดกลายเป็นตำนานที่ถูกเล่าทั่วไปในหมู่บ้านบางบาป จนทำให้ชื่อหมู่บ้านเพี้ยนมาเป็นนางบาปอย่างทุกวันนี้ และตั้งแต่ที่บริษัทเบญจกายแปลงรับงานตัดต่อเทปนี้มา วิษณุก็เริ่มฝันเห็นผู้หญิงในชุดสไบสีม่วง และเรื่องราวตามตำนานเป็นฉาก ๆ คืนประกาศรับรางวัลนาฎราช ซึ่งคราคร่ำไปด้วยนักแสดง บุคคลในวงการบันเทิง และนักข่าวมากมาย ต้น ธนัตถ์ และ กิฟท์ ภาพิมล นักแสดงที่ฮอตที่สุดของเมืองไทยตอนนั้น ได้ขึ้นรับรางวัลร่วมกันในฐานนะนักแสดงนำชายและนำหญิง ส่วนวิษณุได้ขึ้นรับรางวัลสารคดียอดเยี่ยม จากสารคดีแนวประวัติศาสตร์งานถนัดของเขา โดยได้กล่าวขอบคุณเรืองริน โปรดิวเซอร์สาวมือขวาของเขาที่ชื่นชมในตัวเขามาตั้งแต่ตอนที่เขาเคยไปเป็นอาจารย์พิเศษที่คณะ จนขอตามมาฝึกงาน และทำงานกับเขามาตลอดตั้งแต่นั้น