การปะทะกำลังกันระหว่างแก๊ง เดอะ เนทิวิสต์ ของชาวอเมริกันพื้นเมือง นำโดย วิลเลี่ยม คัตติ้ง หรือที่รู้จักกันในนาม บิล เดอะ บุทเชอร์ (เดเนี่ยล เดย์-ลิวอิส) กับแก๊ง เดด แร็บบิทของชาวไอริชคาทอลิกที่อพยพมาอาศัยอยู่ในอเมริกาภายใต้การนำของ บาทหลวงวัลลอน (เลียม นีสัน) อาวุธหลักของพวกเขาคือมีดดาบทุกชนิดทุกขนาด ผลลัพธ์สุดท้ายจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายแรก บิลสังหารวัลลอนอย่างเลือดเย็น พร้อมกับยึดอำนาจปกครองชุมชนย่านโลเวอร์อีสต์ไซด์ของเมืองแมนฮัตตันตอนช่วง กลางศตวรรษที่ 19 หรือที่รู้จักกันในนาม ไฟฟ์ พ็อยท์ มาเป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว
สิบหกปีผ่านไป อัม เตอร์ดัม วัลลอน (ลีโอนาโด ดิคาปริโอ) ลูกชายของบาทหลวง ที่เป็นพยานรู้เห็นในเหตุการณ์สังหารหมู่คราวนั้น และใช้เวลาหลายปีช่วงวัยหนุ่ม เรียนรู้วิถีชีวิตอยู่ในโรงเรียนดัดสันดานเฮลเกท เฮ้าส์ก็ได้เดินทางกลับมายังไฟฟ์ พ็อยท์อีกครั้งในปี 1862 เพื่อหวังแก้แค้นแทนพ่อของเขา อัมสเตอร์ดัมปกปิดฐานะที่แท้จริงของตนกับคนรอบข้างยกเว้นเพียงเพื่อนสนิท จอห์นนี่ (เฮนรี่ โธมัส) ผู้ช่วยผลักดันให้เขาได้เข้าไปทำงานเป็นลูกน้องของบิล เดอะ บุทเชอร์
ต่อ มาอัมสเตอร์ดัมได้รู้จักกับ เจนนี่ (คา เมรอน ดิแอช) สาวนักล้วงกระเป๋าที่กำพร้าพ่อแม่เช่นกัน เขาหลงใหลเธอนับแต่แรกพบ แต่เธอกลับตอบปฏิเสธพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีของเขา ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง สัมพันธภาพระหว่างบิลกับอัมสเตอร์ดัมก็เริ่มแน่แฟ้นขึ้น คนแรกผู้ไม่มีลูกชายเป็นของตัวเอง ได้สอนเทคนิคฆ่าศัตรูด้วยมีดให้แก่คนหลัง ส่วนเด็กหนุ่มก็ตอบแทนบุญคุณด้วยการช่วยชีวิตหัวหน้าของเขาให้รอดพ้นจากการ ลอบสังหาร เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้อัมสเตอร์ดัมได้รับความไว้วางใจจากบิลมากยิ่งขึ้น กระนั้น อัมสเตอร์ดัมก็ไม่เคยลืมว่าเขามาที่ไฟฟ์ พ็อยท์นี้เพื่อการณ์ใด