The Last Temptation of Christ เป็นภาพยนตร์อื้อฉาวที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2531 กำกับโดยมาร์ติน สกอร์เซซี อำนวยการสร้างโดย บาร์บารา เดอ ฟีนา ภรรยาของสกอร์เซซีในขณะนั้น ดัดแปลงจากบทประพันธ์ในชื่อเดียวกันของ นิคอส คาซานซาคิส นักเขียนชาวครีต มีเนี้อหาเกี่ยวกับชีวิตของพระเยซู โดยเน้นไปที่การบำเพ็ญทุกขกิริยา ก่อนจะถูกประหารชีวิตโดยการตรึงกางเขน และทรงถูกทดสอบโดยมารร้ายในช่วงบั้นปลายพระชนม์ชีพ โดยการยั่วยวนด้วยกิเลสทั้งหลาย ภาพยนตร์รับบทนำโดย วิลเลม ดาโฟ เป็นพระเยซู, ฮาร์วีย์ คีเทล เป็นจูดาส์ อิสคาริออท, บาร์บารา เฮอร์ชีย์ เป็นแมรี แม็กดาเลน มีเดวิด โบวี รับบทสมทบเป็นปอนติอุส ปิลาตุส และแฮรรี ดีน สแตนตัน เป็นพอลแห่งทาร์ซัส ในช่วงแรกที่ภาพยนตร์ออกฉาย ถูกต่อต้านอย่างหนักจากหมู่ชาวคริสเตียน ด้วยข้อกล่าวหาการดูหมิ่นศาสนา เนื่องจากภาพยนตร์นำเสนอเหตุการณ์ช่วงที่ถูกยั่วยวนจ ากซาตาน โดยทรงเลือกที่จะแต่งงานกับแมรี แม็กดาเลนและใช้ชีวิตครอบครัวแบบคนธรรมดา แทนที่จะทรงสิ้นพระชนม์ด้วยการตรึงกางเขน รวมทั้งยังมีฉากสั้นๆ ที่แสดงการร่วมเพศระหว่างพระองค์กับแมรี แม็กดาเลน อย่างไรก็ตามภาพยนตร์ก็ได้เปิดเผยในท้ายที่สุดว่า สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงนิมิต และทรงเลือกที่จะปฏิบัติตามภารกิจของพระองค์ นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังถูกโจมตีถึงรายละเอียดบางอย่างใ นเรื่อง เช่น ลักษณะการตรึงกางเขนที่มีการตอกตะปูที่ข้อมือ แทนที่จะเป็นที่ฝ่ามือตามภาพเขียนศิลปะคริสต์ศาสนาทั ่วไป รวมไปถึงการที่นักแสดงในเรื่องพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอ เมริกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกห้ามฉายในหลายประเทศ เช่น ตุรกี, เม็กซิโก, ชิลี, อาร์เจนตินา, ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้สกอร์เซซีได้รับการเสนอชื่อเข ้าชิงรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม, บาร์บารา เฮอร์ชีย์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแส ดงสมทบหญิง ส่วนบทบาทจูดาส์ อิสคาริออท ของฮาร์วีย์ คีเทล กลับทำให้เขาถูกเสนอชื่อรับรางวัลแรซซี สาขานักแสดงสมทบยอดแย่