ณ เกาะแห่งหนึ่งใน จ. สงขลา เรือรบหลวงอรุโณทัย ทอดสมอจอดนิ่งอยู่ระหว่างเกาะหนูและเกาะแมว นายทหารเรือหนุ่มแห่งราชนาวี ม.จ. นิรันดร์ฤทธิ์ธำรง ได้พบกับดรรชนี สาวน้อยผู้สวยใสไร้เดียงสา ดรรชนีอยู่กับพ่อผู้ชรา สองคนที่หาเลี้ยงชีพจับปลาขายและมีเหล้าเป็นเครื่องปรับทุกข์จากความหลังที่ฝังใจ นิรันดร์ตกหลุมรักดรรชนีทันทีที่ได้เห็นเธอ วันรุ่งขึ้นเขามา หาดรรชนีอีก และนิ้วชี้ของดรรชนีก็ต้องเสียเลือดจากแผลอันเกิดจากความปราณีต่อแขกที่มาเยือน เมื่อดรรชนีจะเฉาะน้ำมะพร้าวให้ นิรันดร์ทำแผลด้วยการดูดเลือดจาก นิ้วก้อยของเธอ และต่อจากนั้นดรรชนีก็ตกเป็นของนิรันดร์ ด้วยความยินยอมพร้อมใจ เมื่อเธอเองก็มีใจกับนิรันดร์เช่นกัน นิรันดร์กับดรรชนียังคงคบหากัน โดยนิรันดร์มักจะชอบชมนิ้วของดรรชนีว่าเรียวสวย ที่เขาไม่เคยพบเห็นจากนิ้วมือของหญิงคนใดมาก่อน เมื่อนิ้วชี้นี้เป็นรอยแผลเป็น จึงเปรียบเสมือนเป็นสัญญารักของหนุ่มสาวทั้งสอง เมื่อพ่อกลับมาจากหาปลา เห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน และจากคำบอกเล่าของลิงแสนรู้จึงรู้ว่าได้เกิดอะไรขึ้นในกระท่อมพ่อเฆี่ยน ดรรชนีด้วยหางกระเบน ทั้ง ๆ ที่ตนแสนจะเจ็บปวด เพราะไม่เคยลงโทษลูกเลย จากนั้นพ่อของดรรชนีก็ยิ่งกินเหล้าหนักยิ่งขึ้น พร้อมทั้งหวนคิดถึงความหลังระหว่างตนกับแม่ของดรรชนีแล้วยิ่งเสียใจ เพราะแม่ของดรรชนีไฉไลผู้ซึ่งเสียสละฐานันดรศักดิ์หนีตามตนมา ในอดีตนั้น พระองค์เจ้าหญิงดรรชนีไฉไล ทรงรักกับหนุ่มชาวประมงจน ๆ แต่ติดด้วยฐานันดรที่ต่างกัน จึงทำให้ตัดสินใจหนีตามกันมาใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ เพื่อหนีจากสังคมที่ตนเองเคยรู้จักและกันการครหานินทาจากสังคมรอบข้าง สองหนุ่มสาวใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข แม้ว่าจะไม่สบายกาย แต่ทั้งคู่ก็สบายใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก โดยไม่ยอมติดต่อกับโลกภายนอกอีกเลย ดรรชนีเติบโตขึ้นจากความรักของผู้เป็นพ่อที่ยังยึดติดกับอดีตจมปลักอยู่กับความหลัง โดยมีเหล้าเป็นเครื่องคลายทุกข์ เธอมีเพื่อนเพียงลิงแสนรู้ตัวหนึ่ง เด็กน้อยมีนิ้วที่เรียวสวยเหมือนมารดาผู้จากไป วันรุ่งขึ้น นิรันดร์มาหาดรรชนี และอีกครั้งที่เขาได้ลิ้มรสความหวานของสาวน้อยก่อนลาจากไป และเดินทางกลับมายังกรุงเทพฯ โดยที่เขายังคงรักและคิดถึงดรรชนีอยู่ไม่รู้ลืม ในขณะเดียวกัน ดรรชนี ก็ได้ตั้งหน้าตั้งตาคอยวันกลับมาของนิรันดร์ โดยพ่อของเขาเฝ้ามองลูกสาวสุดที่รักด้วยความสงสาร แต่ไม่อาจช่วยเหลืออะไรเธอได้เลย และเขาก็ยิ่งกินเหล้าหนักยิ่งขึ้น เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ นิรันดร์ได้มีโอกาสรู้จักกับ ศิริยุคล สาวสังคมชื่อดังและท่ามกลางความเห็นชอบของทุกคน ทั้งคู่จึงตัดสินใจแต่งงานกัน โดยที่นิรันดร์ลืมนึกถึงดรรชนีไป เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ดรรชนีท้องแก่จวนคลอด แต่นิรันดร์หายไปไม่มีแม้แต่เงา พ่อสู้อุตส่าห์ไปตามหาที่วังของนิรันดร์ในกรุงเทพฯ แต่ได้รับคำปฏิเสธว่าไม่รู้จัก พ่อซมซานกลับมาหาดรรชนี และในไม่ช้าด้วยความตรอมใจ พ่อก็ตายตามแม่ไปอีกคน ในวันเดียวกับที่ดรรชนีคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย ดรรชนีจึงอยู่กับลูกน้อยตามลำพังและมีลูกชายตัวน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจ ใน วันแต่งงานของ ม.จ. นิรันดร์ฤทธิ์ธำรง กับ ศิริยุคล ของขวัญชิ้นหนึ่งถูกส่งจากเกาะสงขลามายังคู่บ่าวสาว ของขวัญที่ทำให้เจ้าบ่าวสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อเห็น มันคือนิ้วชี้ขาวซีดเป็นรอยตัดถึงโคนนิ้วที่กลางนิ้ว เป็นรอยแผลเป็นเห็นถนัดชัดเจน นิรันดร์จึงหวนนึกถึงดรรชนีขึ้นมาในทันที เขาจำนิ้วชี้ที่เขาเคยชอบและชมว่าสวยงามกว่านิ้วชี้ของหญิงคนอื่น เขารู้ในทันทีว่าดรรชนีตัดสินใจตัดนิ้วชี้ที่เธอรักม ากที่สุก ก็เพื่อเป็นของขวัญให้กับคนที่เธอรัก เพราะเธอจำได้ว่า เขานั้นรักนิ้วของเธอมากที่สุด เป็นเสมือนการทวงสัญญารักที่เคยมีต่อกัน เขาจึงรีบผละออกไปจากห้องหอ รีบเดินทางไปยังเกาะสงขลาในทันที แต่เขาไป สายไป ไม่มีดรรชนีและลูกอีกแล้ว เพราะพายุเพิ่งพัดผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างบนเกาะไม่มีเหลือ นิรันดร์จึงได้แต่เศร้าใจในการสูญเสียที่เกิดขึ้น ชนิดที่ไม่อาจหวนกลับคืนมาได้อีกแล้ว ในความจริงแล้ว ดรรชนีกับลูกได้รับการช่วยเหลือจากเสือใหญ่ โจรสลัด ก่อนที่เธอจะป่วยตาย เสือใหญ่จึงรับเลี้ยงลูกของเธอ โดยตั้งชื่อว่า เสือน้อย ในขณะเดียว กัน นิรันดร์กับ ศิริยุคล ก็ใช้ชีวิตคู่กันอย่างมีความสุขพร้อมทั้งพยานรักเป็น สาวอีกหนึ่งคน โดยที่นิรันดร์ยังคงระลึกถึงดรรชนีอย่างไม่มีวันเสื่ อมคลาย โดยที่เขาไม่มีวันรู้ล่วงหน้าเลยว่า ต่อมาในอนาคต ชะตากรรมกลับเล่นตลกให้เสือน้อยกับลูกสาวของเขา พี่น้องต่างมารดาต้องมาพบรักกันเอง