เมื่อ เมฆา จำเป็นต้องลาออกจากการเป็นตำรวจในขณะที่ตำแหน่งหน้าที่กำลังเจริญก้าวหน้า เป็นเพราะนิสัยในการทำงานอันโลดโผนจนกระทั่งได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้งในการปฏิบัติหน้าที่ อัสนี และพวงคราม พ่อแม่ของเมฆาซึ่งเป็นนักธุรกิจเจ้าของกิจการที่มีฐานะร่ำรวย บังคับให้เมฆาลาออกและส่งตัวไปศึกษาต่อต่างประเทศเวลาผ่านไปหลายปีก็ไม่เห็นมีวี่แววที่เมฆาจะกลับมาเมืองไทย มีเพียงจดหมายส่งมาเป็นระยะ เล่าว่าตั้งแต่เขาเรียนจบก็ได้งานทำเป็นพนักงานประจำเกี่ยวข้องกับฝ่ายเอกสารอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งของรัฐบาล อัสนีและพวงครามได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งเมฆาจะกลับมาช่วยงานกิจการของครอบครัว แล้ววันนั้นก็มาถึงเมื่ออัสนีและพวงครามได้รับโทรศัพท์จากเมฆาว่าเขาลางานกลับมาพักผ่อนที่เมืองไทยระยะหนึ่ง สันติเพื่อนสนิทซึ่งเป็นรุ่นน้องของเมฆาติดตามไปรอรับเมฆาที่สนามบิน ทั้งสามต่างก็ไม่รู้เลยว่าเมฆาได้เข้ามาทำงานเป็นนักสืบเอกชนของบริษัทแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ และที่กลับมาเมืองไทยก็เพื่อมาทำงาน เมฆากลับมาเมืองไทยเที่ยวบินเดียวกับเหล่าเซี๊ยะ ราชายาเสพติดระดับชาติ ซึ่งถูกส่งกลับมาเมืองไทยหลังจากที่สู้คดีและได้รับโทษอยู่ที่สหรัฐนานหลายปี ท่ามกลางการจับตามองของตำรวจไทย ซึ่งมี วิภารัตน์ ตำรวจสาวคนเก่งร่วมอยู่ด้วย วิกรม์…ลูกเลี้ยงของเหล่าเซี๊ยะ อรณี ลูกสาวคนเดียวของเหล่าเซี๊ยะ เหล่าซุ่น น้องแท้ๆ ของเหล่าเซี๊ย และลูกสมุนก็ตามไปรอรับเหล่าเซี๊ยะที่สนามบิน ระหว่างการเดินทางกลับเหล่าเซี๊ยะสัญญาว่าจะวางมือเลิกทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย อรณีได้ยินออกจากปากของพ่อ เธอดีใจมากแต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อทั้งหมดเจอกับการดักซุ่มทำร้ายของผู้ร้ายกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเหล่าเซี๊ยะและอรณีเกือบจะเอาตัวไม่รอดถ้าไม่ได้การช่วยเหลือโดยบังเอิญจากเมฆา ซึ่งเหล่าเซี๊ยะรับปากว่าถ้าเมฆาเดือดร้อนเขายินดีจะช่วยเหลือทุกอย่าง เมฆาไปประสานงานเรื่องข้อมูลกับ นายปราสาทที่เป็นคนว่าจ้างให้เมฆาเดินทางมาจากสหรัฐเพื่อสืบเรื่องราวของวิกรม์ เมฆาปลอมตัวไปพบปราสาทในคราบของ สายลับโทนี่ (ไม่เคยมีใครรู้ว่าหน้าตาที่แท้จริงของเมฆาเป็นอย่างไร เนื่องจากเวลาทำงานเมฆาจะปลอมตัวทุกครั้ง ปราสาทจ้างเมฆาติดตามดูพฤติกรรมของวิกรม์ ปราสาทบอกเมฆาว่าเขาสงสัยวิกรม์จะค้าของเถื่อนระหว่างที่เมฆาคุยกับปราสาทเขารู้สึกว่ามีคนจับตาดูเขาตลอดเวลา เมื่อเมฆาคุยงานเสร็จสิ้น เมฆาหลบไปถอดคราบสายลับโทนี่ออกแล้ววางแผนซ้อนรอยดักซุ่มดูว่าสายตาคู่นั้นเป็นใคร เมฆารออยู่นานจนเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องทำงานของปราสาท เมฆาสะกดรอยตามไปแต่ก็ต้องคลาดกันจนได้เมื่อบังเอิญเดินไปชนกับอรณีพอดี อรณีจำเมฆาได้และคิดมอบเงินตอบแทนแต่เมฆาปฏิเสธ เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจท่าทีของอรณีที่ค่อนข้างหยิ่งและคิดว่าเงินสามารถซื้อทุกอย่างได้ เมฆาจากไป อรณีผูกใจเจ็บเมฆา หลังจากนั้นเมฆาเริ่มปลอมตัวเป็น คเชนทร์ พ่อเลี้ยงหนุ่มเพลย์บอยไปเล่นการพนันที่บ่อนการพนันแห่งหนึ่ง คเชนทร์ใช้บุคลิกใจกว้าง กล้าได้กล้าเสีย และกวนๆ จนกลายเป็นที่รู้จักในวงการนักเลงได้โดยไม่ยาก ทำให้วิกรม์อยากจะรู้จักและเข้ามาตีสนิทกับคเชนทร์ แรกๆ คเชนทร์ใช้แผนทำเป็นไม่สน ยิ่งทำให้วิกรม์อยากจะเป็นเพื่อนคเชนทร์ใจจะขาด ในที่สุด…วิกรม์หันมาใช้ศศิธรน้องสาวของตัวเองเข้ามาเป็นนางนกต่อ จนคเชนทร์ยอมสนิทสนมด้วยในที่สุด ศศิธรพราวในความสวยและเสน่ห์ของตัวเองเหลือประมาณ โดยไม่รู้ตัวเองและวิกรม์ตกหลุมพรางของคเชนทร์เข้าให้แล้ว วิกรม์มักจะหยิบยืมเงินคเชนทร์อยู่บ่อยครั้งเมื่อเล่นการพนันเสีย ศศิธรยอมช่วยวิกรม์เพราะเห็นว่าคเชนทร์เป็นคนรวยและมีเสน่ห์ และตัวเธอต้องการที่จะสยบผู้ชายทุกคนมาอยู่แทบเท้า งานสืบสวนของเมฆาดำเนินไปอย่างราบรื่นเพราะได้ความกะล่อนของคเชนทร์ที่ทุกคนเห็นว่า คเชนทร์เป็นแค่พ่อเลี้ยงนักเลงคนหนึ่งที่รักสนุกได้ทุกรูปแบบ แถมคเชนทร์ยังปรนเปรอวิกรม์กับศศิธรราวกับเทวดานางฟ้า ไม่ว่าจะเปิดคุ้มทางเหนือให้สองศรีพี่น้องไปพักผ่อนได้เต็มที่ หรือให้ยืมเรือยอร์ชไปตากอากาศ โดยทั้งบ้านทั้งเรือเป็นของพ่อแม่ของเมฆานั่นเอง ดังนั้นคเชนทร์จึงเข้าออกบ้านของวิกรม์ได้สะดวกพร้อมกับข้อมูลต่างๆ ที่ส่งให้กับปราสาทในมาดของ สายลับโทนี่ สายลับโทนี่ทำงานสืบสวนเก็บหลักฐานต่างๆ อย่างมืออาชีพเพราะเค้าผ่านการฝึกฝนให้มีความชำนาญในสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอมพิวเตอร์ การใช้อาวุธทั้งมีดทั้งปืน วิชาการต่อสู้ทุกรูปแบบทั้ง คาราเต้ กังฟู หรือแม้แต่มวยปล้ำ ที่จำเป็นต้องใช้ในบางครั้ง ขับรถขับเรือขับเครื่องบินได้เป็นเลิศ ทั้งยังสามารถปลอมแปลงตัวได้อย่างรวดเร็ว การสืบสวนของโทนี่ทำให้ต้องไปวนเวียนอยู่รอบตัววิกรม์ ศศิธรหรือแม้แต่อรณีในคราบของบุคคลต่างๆ ที่ต้องปลอมแปลงตัว ทั้งขี้ยา ขาพนัน คนขับแท็กซี่ พนักงานเสิร์ฟ นักเลงคุมซอย โดยที่ไม่มีใครรู้ ขณะชีวิตในคราบนายเมฆาลูกชายนักธุรกิจกลับมาตกที่นั่งลำบากเพราะพ่อแม่พยายามให้เข้ามาทำงานที่บริษัท เพราะต้องการดึงเมฆากลับมาดูแลกิจการของครอบครัวเสียที เมฆาจำต้องทำตามแต่ก็หลบไปสืบงานข้างนอกอยู่เป็นประจำโดยมีสันติเป็นคนคอยช่วย สันติก็ไม่รู้ว่าเมฆาหายไปไหนบ่อยๆ เมฆาต้องไปออกงานสังคมกับพ่อแม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมักได้พบกับเหล่าเซี๊ยะ เหล่าซุ่น และอรณีบ่อยครั้งมากขึ้น เมฆาพยายามใช้ไหวพริบหลบเลี่ยงเอาตัวรอดเป็นประจำ ขณะเดียวกันเมฆาในคราบพ่อเลี้ยงคเชนทร์ก็ก้าวเข้ามาในบ้านของเหล่าเซี๊ยะในฐานะเพื่อนของวิกรม์และคนพิเศษของศศิธร ซึ่งทำให้มีโอกาสได้พบอรณีอยู่เป็นประจำ ศศิธรพยายามควงคเชนทร์เย้ยอรณี เพราะตั้งแต่เล็กจนโตศศิธรทำตัวแข่งกับอรณี แต่อรณีเหนือกว่าอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีโอกาสคเชนทร์มักจะหาทางใกล้ชิดพูดจากวนประสาทอรณีอยู่เสมอเพราะเขาเริ่มชอบอรณีเข้าแล้ว อรณีไม่ชอบขี้หน้าของคเชนทร์อย่างมาก เหมือนกับที่ไม่ชอบวิกรม์ที่คอยตามตื๊อจีบเธอตลอดเวลา ในที่สุดอรณีก็รู้ความจริงจนได้ว่าเมฆาตัวจริงนั้นเป็นลูกของนักธุรกิจที่ร่ำรวยคนหนึ่ง เพราะฝีมือของอัสนีและพวงคราม ทั้งสองวางแผนกับสันติจัดงานเลี้ยงขึ้นโดยหลอกว่าเป็นงานวันเกิดของสันติ เมื่อเมฆามาถึงงานกลับกลายเป็นงานเปิดตัวเมฆาในฐานผู้บริหารคนใหม่ของบริษัท เป็นข่าวใหญ่โตในหน้าหนังสือพิมพ์ เมื่อเหล่าเซี๊ยะรู้ว่าเมฆาเป็นลูกคนมีฐานะเป็นคนมีการศึกษาดี ประกอบกับชื่นชอบที่เมฆาเคยช่วยชีวิตเขา เหล่าเซี๊ยให้คนติดต่อเพื่อพบปะกับเมฆาหลายครั้ง จนเมฆากลายมาเป็นเพื่อนสนิทต่างวัยที่รู้ใจ เหล่าเซี๊ยะชวนเมฆามาลงทุนทำธุรกิจร่วมกันในขณะที่อรณีและเหล่าซุ่นไม่เห็นด้วย เมื่อกลายมาเป็นคนรู้ใจ เมฆามีโอกาสใกล้ชิดอรณีมากขึ้นอีกทางหนึ่ง เขาพบว่าอรณีเป็นผู้หญิงแกร่งแต่ภายนอก ในใจนั้นอ่อนไหว เมฆาพยายามพังปราการใจของอรณีในลักษณะของไม้เบื่อไม้เมา แต่เหล่าเซี๊ยะกลับทำตัวเป็นพ่อสื่อให้ทั้งสองรักกัน ไม่ว่าเมฆาจะทำอะไรเหล่าเซี๊ยะเห็นดีเห็นงามไปหมด ซ้ำยังให้เมฆาช่วยดูแลอรณีด้วยถ้าเขาเป็นอะไรไปก่อนเวลาอันควร ความใกล้ชิดทำให้อรณีเริ่มมีใจโอนอ่อนให้เมฆา ทำให้ วิกรม์หึงหวงและเกลียดแค้นเมฆามาก เหล่าเซี๊ยะประกาศวางมือเลิกธุรกิจผิดกฎหมายทุกอย่าง ที่หนักใจสุดคือการที่ลูกน้องเก่ายังจงรักภักดีกับเหล่าเซี๊ยะและคอยรายงานเรื่องพฤติกรรมของวิกรม์ให้ฟังว่าพยายามจะโค่นล้มเขา เหล่าเซี๊ยะถูกปองร้ายหลายครั้งแต่รอดมาได้ทุกครั้ง เหล่าเซี๊ยะนึกไม่ถึงว่าวิกรม์ที่เขาชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กจะคิดฆ่าตัวเขา แต่ก็ยังหาหลักฐานมามัดตัวไม่ได้ เหล่าซุ่นสรุปว่าเป็นแค่ข่าวลือ ซึ่งทุกคนไม่รู้เลยว่าคนที่บงการอยู่ในเงามืดที่หลอกใช้วิกรม์อยู่ก็คือเหล่าซุ่นนั่นเอง วิกรม์ทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้ตัวอรณีไว้ครอบครองและหวังจะสืบทอดอำนาจต่อจากเหล่าซุ่น เมื่อวิกรม์ไม่สามารถฆ่าเหล่าเซี๊ยะได้ในวันแรกที่กลับมาถึงเมืองไทย วิกรม์จึงต้องแสร้งทำดีกับเหล่าเซี๊ยะและหาแพะรับบาปมาแทนตัวเอง อีกทางหนึ่งก็วางแผนจัดการลูกน้องของเหล่าเซี๊ยทีละคน โดยได้รับการร่วมมือจาก พันตำรวจโทพิศาล ตำรวจนอกแถวซึ่งหาหลักฐานเท็จมาใส่ความลูกน้องของเหล่าเซี๊ยะ ส่วนคเชนทร์ดำเนินการตามดูวิกรม์และรู้เรื่องวิกรม์มากขึ้น แต่ก็มีอยู่บ่อยครั้งที่คเชนทร์เกือบโดนจับได้เพราะศศิธรเข้ามาพัวพันกับเขา จนกระทั่งวันหนึ่ง ศศิธรเกิดไปเจอกับสายลับโทนี่ที่คอนโดมิเนียมที่คเชนทร์อาศัยอยู่ ศศิธรหว่านเสน่ห์ให้โทนี่ ตั้งแต่นั้นมาศศิธรแวะเวียนไปหาคเชนทร์ที่คอนโดบ่อยมากขึ้น เพื่อจะหาทางพบสายลับโทนี่ โทนี่ต้องปลอมตัวหลบเลี่ยงศศิธรไม่เว้นแต่ละวัน เมฆาในคราบสายลับโทนี่ สรุปจากหลักฐานที่หามาได้และส่งให้ปราสาทว่าเขาไม่เชื่อว่าวิกรม์จะสามารถดำเนินการคนเดียวได้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าเซี๊ยะ แต่ไม่นานโทนี่ก็ได้รับคำสั่งจากปราสาทให้ดำเนินการสอบสวนแต่วิกรม์คนเดียวและไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับเหล่าเซี๊ยะเด็ดขาด เพราะผู้ที่อยู่เบื้องหลังการว่าจ้างของปราสาทก็คืออรณีนั่นเอง โทนี่เริ่มสงสัยในการว่าจ้างของปราสาท จนกระทั่งเขาได้แอบถ่ายภาพเป็นหลักฐาน ขณะที่วิกรม์และชายคนหนึ่งที่มีท่าทางคล้ายเหล่าเซี๊ยะกำลังส่งมอบอาวุธสงคราม แต่โทนี่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงขณะที่ช่วยชีวิตวิภารัตน์ที่นำกำลังเข้าจับกุมและเสียท่าต่อฝ่ายวิกรม์ วิภารัตน์ส่งโทนี่ไปทำบาดแผลที่โรงพยาบาล และสืบถามเรื่องที่โทนี่เข้ามาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้แต่วิภารัตน์ก็ไม่ได้รับคำตอบจากโทนี่ เมื่อกลับไปเป็นนายเมฆา สันติทราบเรื่องที่เมฆาได้รับบาดเจ็บโดยบังเอิญและบังคับให้เมฆาเล่าเรื่องราวทั้งหมดโดยขู่ว่าจะฟ้องอัสนีและพวงคราม เมฆาจำต้องเล่าความจริงให้ฟังและให้สันติเก็บเรื่องไว้เป็นความลับ เมฆาส่งข้อมูลใหม่ให้ปราสาทดูอีกครั้งและยืนยันว่าเหล่าเซี๊ยะมีส่วนเกี่ยวข้อง อรณีไม่พอใจมากอยากรู้ให้ได้ว่าสายลับโทนี่คือใครกันแน่ ในที่สุดเมฆาก็เสียท่าเพราะความรัก เมื่อมาพบตามนัดของปราสาท อรณีออกมาจากที่ซ่อนพร้อมใช้ปืนขู่จะยิงบังคับให้สายลับโทนี่เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริง เมฆาใช้ไหวพริบจับอรณีเกิดการต่อสู้แย่งปืนกัน เสียงปืนลั่นขึ้นอรณีทำเป็นตาย เมฆาตกใจมากทิ้งปืนกอดอรณีไว้ อรณีฟื้นขึ้นกระชากหน้ากากของสายลับออกมา พบว่าสายลับที่เธอจ้างมาก็คือเมฆานั่นเอง อรณีเสียใจมากที่โดนหลอกและเปิดเผยตัวว่าเธอเป็นผู้ว่าจ้างเมฆา อรณีเลิกจ้างเมฆาและตัดขาดความรู้สึกที่ดี แต่ด้วยความดื้อดึง เมฆาจึงไม่ยอมเลิกราและเขารู้ว่าอรณีกำลังตกอยู่ในอันตราย ไม่ว่าเมฆาจะอธิบายอย่างไรอรณีก็ไม่ฟัง เมฆาจำรับปากว่าจะเลิกสอบสวนเรื่องนี้แต่เขาไม่ยอมเลิกเป็นเพื่อนที่ดีกับเหล่าเซี๊ยะเด็ดขาด เมฆาตัดสินใจเข้าไปลงทุนกับเหล่าเซี๊ยะเมื่อศศิธรไปพบเมฆาที่บริษัทก็เกิดตกหลุมรักเมฆาทันที โดยไม่รู้เลยว่าเมฆาและคเชนทร์เป็นคนๆ เดียวกัน เมื่อศศิธรเริ่มเข้ามาวุ่นวายในชีวิตของเมฆามากขึ้น ทั้งยังถูกสะกดรอยตามจากวิภารัตน์ด้วย จนเมฆาต้องบังคับให้สันติให้คอยช่วยเหลือ สันติช่วยเหลือทั้งสองทางจนเขาต้องกลายเป็นคู่แค้นของศศิธรและวิภารัตน์แบบตกกระไดพลอยโจน ส่วนอรณีรู้ว่าเมฆาไม่ยอมยุติที่จะสืบสวนเรื่องของพ่อเธอ แต่ก็ไม่กล้าที่จะบอกเหล่าเซี๊ยะเพราะเมฆาขู่ว่าจะมอบหลักฐานที่สืบมาทั้งหมดให้ตำรวจ ต่อมาเหล่าเซี๊ยะขยายธุรกิจออกไป โดยส่งเมฆาตามอรณีไปดูงานที่เกาะแห่งหนึ่ง ทั้งๆ ที่อรณีไม่ค่อยพอใจแต่เธอก็หวังว่าจะมีเวลาคุยเพื่อให้เมฆายกเลิกงานสืบสวน เหล่าซุ่นเริ่มไม่ไว้วางใจทั้งคู่จึงส่งวิกรม์ไปคอยสืบหาข้อมูลซึ่งวิกรม์ก็เต็มใจรับงานนี้ เพราะเขาหวังจะจัดการเอาอรณีมาเป็นเมียให้สำเร็จแต่เมฆาที่ปลอมตัวมาเป็นเสี่ยคเชนทร์ช่วยเหลืออรณีให้รอดพ้นมือวิกรม์ไปได้ทุกครั้ง เมื่ออรณีกับเมฆามีเวลาอยู่ด้วยกัน เริ่มจะเข้าใจกัน ศศิธรก็โผล่มาทำลายความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งคู่ไปจนทำให้อรณีคิดว่าเมฆาเป็นคนที่ปลิ้นปล้อนหลอกลวง อรณีถูกเหล่าซุ่นลวงถามเรื่องของเมฆา อรณีไม่บอกความจริง แต่ด้วยไหวพริบเหล่าซุ่นก็รู้ว่าเมฆาคือตัวอันตราย