เรื่องย่อ เพลงลำ สาวสวยเข้มดุเป็นลูกสาวคนเดียวของ “บัวสาย” แม่เพลงลำตัดคนดังของบ้านบางลำสุพรรณบุรี ตั้งแต่จำความได้เพลงลำมีเพียงแม่บัวสายกับ “น้าบัวเผื่อน” ที่เลี้ยงดูเธอมา เธอไม่รู้จักพ่อ หรือที่จริงแล้วไม่มีใครรู้ว่าพ่อของเธอเป็นใคร นอกจากแม่บัวสายซึ่งไม่ยอมพูดถึงสักครั้ง วันหนึ่งเมื่อเพลงลำยังเด็ก บัวสายกลับจากเล่นลำตัด พบเด็กหญิงวัยแบเบาะคนหนึ่งถูกทิ้งไว้ที่พุ่มไม้หน้าบ้าน บัวสายสงสารจึงอุปการะเลี้ยงดูเรื่อยมา เธอตั้งชื่อให้ว่า “ไข่กา” เด็กทั้งคู่เติบโตมาด้วยกันเป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่และน้อง เพลงลำสวย มีสง่า เสียงดี เหมาะที่จะหัดเล่นลำตัด แต่เธอไม่ยอม ไม่ว่าบัวสายจะบังคับอย่างไรก็ตาม เพลงลำกลับชอบหัดชกมวยไทยกับน้าบัวเผื่อนมากกว่าและทำได้ดีเสียด้วย นอกจากนั้นยังเก่งเรื่องเครื่องยนต์รถ ไถนาและอุปกรณ์ต่างๆเพราะเป็นลูกมือน้ามาตั้งแต่เด็กๆ ตรงข้ามกับไข่กาที่อยากจะเป็นลำตัดเหลือเกินทั้งที่ไม่สวยและเสียงไม่ดี บัวสายมีคณะลำตัดที่มีชื่อเสียงมาก ครอบครัวนี้และชาวบ้านใกล้เคียงทำนาด้วยวิธีดั้งเดิมไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้รถไถ ไม่ใช้รถเกี่ยวข้าว ทำให้ “กำนันฝอย” กับลูกคือ “ฝาจีบ” และ “ฝาจุก” ลูกชายและลูกสาวไม่ค่อยพอใจ เพราะครอบครัวกำนัยฝอยทำกิจการค้าปุ๋ยเคมี มีรถเกี่ยวข้าวให้เช่า ชาวบ้านส่วนใหญ่มีหนี้สินกับครอบครัวนี้มากจนถูกยึดนาไปหลายราย เพราะเชื่อใจกำนันฝอยที่ทำเหมือนใจดีให้พวกเขาซื้อปุ๋ยในราคาเงินเชื่อ ตกลงว่าขายข้าวได้แล้วจะเอามาคืน จากแค่ซื้อปุ๋ยก็จะโดนบังคับให้เช่ารถเกี่ยวข้าวในราคาสูงลิบจนต้องหมดตัวไปตามๆกัน ที่จริงแล้วกำนันฝอยเคยหลงรักบัวสายตั้งแต่เริ่มเป็นสาวรุ่น แต่เมื่อบัวสายไปเล่นลำตัดที่กรุงเทพแล้วท้องกลับมาโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อทำให้กำนันฝอยอกหักกินเหล้าจนพ่อกับแม่ต้องจับให้แต่งงานกับแม่เพลงลำตัดสาวสวยคู่ปรับกับบัวสายจนมีลูกสองคน กำนันฝอยเป็นม่ายเพราะเมียตายมาหลายปีแล้ว ทั้งฝาจีบและฝาจุกทำตัวเป็นนักเลงประจำหมู่บ้านมาตั้งแต่เด็กจึงเป็นคู่ปรับกับเพลงลำ และไข่กาตลอดมา แม้ฝาจุกจะเป็นผู้หญิงแต่ก็เจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากฝาจีบซึ่งเป็นพี่ชายสักนิดอาจจะร้ายกว่าเสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามครอบครัวกำนันฝอยทำอะไรครอบครัวบัวสายไม่ได้มากนัก เพราะครอบครัวนี้เป็นที่รักของชาวบ้านมากกว่า ทั้งเรื่องของการฝึกลำตัดให้เด็กๆที่สนใจหรือจะฝึกมวยกับเพลงลำในหน้าแล้งเป็นการสอนให้เด็กใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นคือ เพลงลำเป็นคนฉลาด กล้า ไม่กลัวใครเมื่อโดนแกล้งจึงตอบโต้จนกำนันฝอยต้องเสียเงินมากมาย ในคณะของบัวสายมี “เจิด” เป็นพ่อเพลงที่เก่งมากอยู่ด้วย เจิดมาฝึกกับบัวสายตั้งแต่เด็ก เป็นกำลังสำคัญของคณะ บัวสายเลี้ยงเจิด และคนอื่นๆเหมือนลูกหลาน บ้านนี้มีกฎระเบียบและข้อห้ามหลายอย่าง เพราะมีคนมาก แต่ก็อยู่กันมาได้ เจิดนั้นรักเพลงลำมาตั้งแต่เป็นหนุ่ม เขาอายุมากกว่าเพลงลำไม่กี่ปี แต่สำหรับเธอแล้ว เจิดเป็นพี่ชายที่แสนดีเท่านั้น “ปกรณ์พล” นักศึกษาปริญญาโท ตั้งใจจะทำวิทยานิพนธ์ เรื่องลำตัดเพลงพื้นบ้านของไทย จึงต้องลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูล เมื่อลำตัดคณะแม่บัวสายมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศเขาจึงต้องไปบางลำ ปกรณ์พลเป็นลูกชายคนเดียวของ “อรรถ” และ “โฉมตรู” พ่อของเขาเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงด้านการสื่อสารในระดับนานาชาติ ร่ำรวยมาก แต่ปกรณ์พลไม่เคยสนใจกิจการของพ่อเขาเลย ชายหนุ่มชอบดนตรี และงานศิลปวัฒนธรรมทุกประเภทเขาเหมือนกับโฉมตรูมากกว่า ชายหนุ่มมีเพื่อนสนิทชื่อ “กุชงค์” เข้ามาช่วยอรรถทำงานมากกว่าปกรณ์พลเสียอีก เมื่อกุชงค์รู้ว่าเพื่อนจะต้องไปอยู่บางลำเขาก็อดห่วงไม่ได้ เขากังวลว่าปกรณ์พลจะหาข้อมูลได้ไม่ดีนัก เพราะ “งามไฉไล” ไฮโซสาวคงไมยอมง่ายๆ งามไฉไลเป็นลูกสาวคนเดียวของ “โพยมยง” นักธุรกิจม่ายสาวที่รวยมาก ครอบครัวนี้รวยจากการค้าเพชรและเล่นหุ้น ครอบครัวอรรถกับโฉมตรูสนิทสนมกับโพยมยงและสามีมานานจนกระทั่งสามีเธอตายจากไป ทั้งสองครอบครัวก็ยังเป็นมิตรที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะงามไฉไลที่ติดปกรณ์พลมาตั้งแต่เด็ก เพราะเขาเป็นคนเดียวในกลุ่มเพื่อนวัยเดียวกันที่ตามใจเธอ ชายหนุ่มเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว แต่งามไฉไลไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น เธอรักเขา และพยายามประกาศตัวว่าเป็นคู่รักของเขาเสมอ เธอไม่ยอมรับว่าเธอกับปกรณ์พลไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย ขณะที่ชายหนุ่มชอบศิลปวัฒนธรรมไทย ชอบมีชีวิตที่เรียบง่าย งามไฉไลกลับชอบความหรูหรา ฟุ่มเฟือย วางอำนาจ อวดรวย เธอจึงไม่ค่อยน่ารักอีกแล้วในสายตาของปกรณ์พล ดังนั้นคนในบ้านจึงไม่แปลกใจนักเมื่อเขารีบออกไปบางลำแต่เช้าก่อนที่งามไฉไลจะมาขอตามไปด้วย ปกรณ์พลขับรถไปเกือบถึงบ้านบัวสายแต่แล้วรถเสียกลางทางโชคดีที่เพลงลำขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดีเธอจึงพาเขาไปส่งที่อู่รถของ ช่างเอื้อง เมื่อย้อนกลับมายังรถที่จอดอยู่ ปกรณ์พลหนักใจเมื่อรู้ว่าต้องรออะไหล่หลายวันเขาไม่กลับกรุงเทพฯ แต่เลือกที่จะไปนอนค้างที่วัดตามที่ช่างเอื้องแนะนำมากกว่า ค่ำแล้วเมื่อปกรณ์พลเดินเกือบถึงวัด เขาเห็นเพลงลำถูกรุมทำร้าย แม้จะเก่งเรื่องต่อสู้ป้องกันตัวแต่การที่เธอถูกรุมจากฝาจีบและลูกน้องก็ไม่ง่ายที่เธอจะจัดการพวกมันได้ ปกรณ์พลมาช่วยทันเวลาเขาใช้ไม้ท่อนใหญ่ตีจนพวกนั้นหนีกระเจิง เจ็บกันหลายคนโดยเฉพาะฝาจีบกับนายแสบคนสนิทที่ถูกฟาดหัวอย่างแรง เพลงลำจึงพาเขาไปพักที่ค่ายมวยของน้าบัวเผื่อน เธอไม่กล้าปล่อยเขาไว้ตามลำพังเพราะรู้ดีว่าฝาจีบคงพาพวกมาล้างแค้นแน่นอน เช้าวันต่อมาปกรณ์พลต้องตอบคำถามมากมายเรื่องการมาทำวิทยานิพนธ์ของเขา ชายหนุ่มแปลกใจที่บัวเผื่อนแนะนำให้เขาไปที่อื่นรวมทั้งเพลงลำกับไข่กาด้วย แต่เมื่อเขายืนยันว่าต้องการมาเป็นลูกศิษย์แม่บัวสายต้องการข้อมูลของที่นี่จริงๆเพลงลำจึงยอมพาไปพบบัวสาย แต่กลับต้องวิ่งหนีออกจากบ้านแทบไม่ทันเมื่อบัวสายปล่อยหมาเฝ้าบ้านนับสิบตัวออกมาไล่เขา แม้กระนั้นปกรณ์พลก็ไม่ยอมแพ้ เพลงลำนึกชอบที่เขา ใจสู้ เธอกับไข่กาจึงพาเขาไปหาเจิดให้ช่วยพูดกับบัวสายอีกครั้ง เจิดมีวิธีพูดให้บัวสายใจอ่อนยอมรับปกรณ์พลให้อยู่เรียนรู้เรื่องลำตัดได้ แต่ต้องผ่านบททดสอบของเธอก่อน วันรุ่งขึ้น ปกรณ์พลถูกปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เขาต้องออกไปช่วยทำนาตามบททดสอบของบัวสาย เพลงลำคอยช่วยอยู่ใกล้ๆ ชายหนุ่มเต็มใจทำงานแม้จะเงอะงะบ้าง ความตั้งใจจริงทำให้เพลงลำพอใจ แต่ลึกลงไปในใจเพลงลำรู้สึกว่าเขามีบุญคุณที่มาช่วยเธอจากพวกฝาจีบได้ทันเวลา มิฉะนั้นเธออาจพลาดถูกพวกมันฉุดไปแล้ว ฝาจีบชอบฉุดสาวๆไปปล้ำถ่ายคลิปแบล็คเมล์ ทำงานหนักกลางแดดจัดๆ ปกรณ์พลหมดแรงเป็นลม เพลงลำ เจิด ไข่กา รีบพาไปพักไม่ให้บัวสายรู้ เปิดมือถือหาหมายเลขจะโทรบอกทางบ้าน งามไฉไลโวยวายต่อว่าอยู่หลายคำกว่าจะพูดกันรู้เรื่องว่าให้ไปรับปกรณ์พลที่โรงพยาบาลในอำเภอ เมื่อถึงโรงพยาบาล ไข่กาและเจิดแยกกลับบ้านก่อน เพลงลำอยู่กับปกรณ์พล จนกระทั่งงามไฉไลกับโพยมยงมาถึงโรงพยาบาล เธอประกาศตัวเป็นแฟนของปกรณ์พลอย่างชัดเจน เมื่อชายหนุ่มเพ้อถึงเพลงลำทำให้งามไฉไลนั่งไม่ติดตามไปอาละวาดกับเพลงลำอีก งามไฉไลพาปกรณ์พลกลับกรุงเทพฯ เธอพยายามอาสามาดูแลชายหนุ่มแต่เขาก็หลบเลี่ยงตลอดเวลา ในช่วงเวลาเดียวกันที่บางลำ กำนันฝอยจัดงานเปิดตัว ฝาจีบลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน เพลงลำเสนอ ชื่อเจิดลงสมัครแข่งขันด้วย ฝาจีบจึงเปิดศึกตัดกำลังบ้านเสียงของเจิด ด้วยการใช้รถเกี่ยวข้าวไปขโมยเกี่ยวข้าวที่ออกรวงงามๆของนา นางสำอาง เพื่อนบ้านของบัวสายจนหมดเพียงชั่วข้ามคืน เพลงลำ ไข่กา เจิด เอาท่อนเหล็กไปแทรกระหว่างต้นข้าว ทำให้รถเกี่ยวเกี่ยวเหล็กท่อนเข้าไปจนพังหมด ทำให้กำนันฝอยโกรธพวกเพลงลำมากขึ้นไปอีก ส่วนปกรณ์พลเมื่อฟื้นไข้เขาก็หนีกลับไปบางลำอีก คราวนี้ไม่ใช่เพื่องานวิจัยอย่างเดียว แต่เพื่อหัวใจด้วยเขารักเพลงลำ และรู้ดีว่าต้องพิสูจน์ตัวเองกับบัวสาย เพลงลำดีใจมากเมื่อพบปกรณ์พลอีกครั้ง เธอเองก็รักเขามากเช่นกัน ทว่าความรักของทั้งคู่มีอุปสรรคมากมาย เริ่มจากงามไฉไลที่มาตามเขาไม่เลิกรา แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือ อรรถพ่อของปกรณ์พลก็มาตามปกรณ์พลกลับไปด้วยตัวเองด้วย บัวสายต้อนรับอรรถด้วยปืนลูกซองมาดเข้มดุ เพลงลำงงที่เห็นบัวสายโกรธอรรถมากขนาดนั้น คนที่รู้คือบัวเผื่อน เขาจำอรรถได้ว่าเคยไปเฝ้าดูบัวสายเล่นลำตัดที่กรุงเทพฯ ก่อนที่เธอจะท้องกลับมา บัวเผื่อนรู้ทันทีว่าอรรถเป็นพ่อของปกรณ์พล บัวสายยื่นคำขาดห้ามเพลงลำติดต่อกับปกรณ์พลโดยไม่บอกเหตุผลว่าพี่กับน้องจะแต่งงานกันได้อย่างไร งามไฉไลตามรังควานเพลงลำกับบัวสายอย่างน่ารำคาญ เธอทนให้ใครมาดูถูกแม่ไม่ได้ ขอร้องให้ปกรณ์พลกลับไป ปกรณ์พลยอมกลับกรุงเทพ ยอมหมั้นกับงามไฉไลตามความต้องการของอรรถ ส่วนเพลงลำยอมหัดลำตัดเพื่อประชันในงานสืบสานศิลปวัฒนธรรมงานใหญ่ของจังหวัดโดยมีฝาจีบเป็นคู่ประชัน กำนันฝอยยอมเสียเงินมากมายเพื่อให้ลูกชนะ แม้จะต้องโกงคะแนนก็ตาม คนที่เข้ามาเพิ่มความวุ่นวายคืองามไฉไลกับโพยมยงที่ตามมาช่วยสบทบเงินค่าจ้างหน้าม้ามาโห่ฮาเพลงลำ เช้าวันงาน บัวสายป่วยต้องผ่าตัดไส้ติ่งกระทันหัน เพลงลำไม่มั่นใจขึ้นเวที เจิดช่วยเป็นกำลังใจให้ ปกรณ์พลแปลกใจเมื่องามไฉไลกุลีกุจอพาเขามาดูการประชันลำตัด เขาไม่รู้ว่าอรรถตามมาดูด้วย เมื่อผลการประชันออกมาว่าเพลงลำชนะฝาจีบอย่างงดงาม เขาหายสงสัยทันทีเมื่องามไฉไลกับโพยมยงตามไปต่อว่ากำนันฝอยกับลูกที่ทำงานไม่สำเร็จ ตัวตนของคู่หมั้นกับแม่ทำให้ปกรณ์พลกลุ้มใจมาก ส่วนอรรถตามมาเยี่ยมบัวสาย ที่โรงพยาบาล เขาถามบัวสายว่าเพลงลำเป็นลูกของเขาใช่หรือไม่ เธอไม่ตอบ แต่เหน็บแนมต่อว่าเรื่องศักดิ์ศรีผู้ดี ความต่ำต้อยของแม่เพลงลำตัด เท่านี้อรรถก็เข้าใจ ขอโทษที่ปล่อยให้เธอต้องอุ้มท้องกลับบางลำ และเลี้ยงลูกคนเดียว เพลงลำยืนอยู่ที่หน้าห้องได้ยินทุกอย่าง แอบหลบไปไม่ให้อรรถพบ เมื่ออรรถกลับไป เพลงลำบอกว่าเธอตั้งใจจะเป็นแม่เพลงลำตัดที่ดีให้ได้ ที่กรุงเทพโฉมตรูได้ต้อนรับ “ดัสกร” เพื่อนเก่าเมื่อครั้งไปเรียนที่สวิสเซอร์แลนด์ ดัสกรคือคนรักก่อนจะแต่งงานกับอรรถ ดัสกรมาพบเธอเพื่อลาเพราะเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขาอยากพบลูก โฉมตรูปฏิเสธไม่ยอมให้พบปกรณ์พล แต่ดัสกรก็พบกับปกรณ์พลจนได้ในวันหนึ่ง แม่ปริก คนรับใช้เก่าแก่รู้ความจริงว่าปกรณ์พลเป็นลูกดัสกรกับโฉมตรู ก่อนงานหมั้นงามไฉไลกับโพยมยงไปพบกำนันฝอยเธอต้องการทำลายเพลงลำกับแม่ให้ถึงที่สุด หญิงสาวจ้างฝาจีบให้ไปเผาบ้านของบัวสาย ฝาจีบเมื่อพบงามไฉไลก็หลงรักตั้งใจจะแต่งงานให้ได้ บ้านบัวสายถูกเผาตามแผน ในช่วงเวลาเดียวกันงามไฉไลติดต่อจ้างคณะลำตัดบัวสายไปแสดงในงานหมั้นของเธอกับปกรณ์พล เธอต้องการประจานเพลงลำกับแม่ให้ได้อายกลางงาน บัวสายไม่อยากให้เพลงลำรับงาน แต่เพลงลำยอมรับงานนี้โดยบอกว่า “แม่สอนอยู่เสมอว่าเราต้องทำหน้าที่ของศิลปินพื้นบ้านให้ดีที่สุด สง่างามที่สุด เพื่อจะสืบสานมรดกชิ้นนี้ไว้ให้กับลูกหลานสืบไป” งานคราวนี้ก็เป็นงานแสดงครั้งหนึ่งเท่านั้น หลังจากงานนี้เพลงลำบอกบัวสายว่าเธอจะแต่งงานกับเจิดเพื่อช่วยกันทำงานรักษาศิลปวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านต่อไป บัวสายสงสารลูกสาวมากเพลงลำทำทุกอย่างเหมือนเป็นหน้าที่เท่านั้น เพลงลำเรียกค่าจ้างหนึ่งล้านบาท โพยมยงกับงามไฉไลยอมตกลง ข่าวงานหมั้นของปกรณ์พลและงามไฉไลทำให้ฝาจีบกับฝาจุกกลุ้มใจ ร้อนใจมากที่สุด ฝาจีบรักงามไฉไล ส่วนฝาจุกรักปกรณ์พล สองพี่น้องวางแผนจับตัวทั้งสองคนกลางงานหมั้นเพื่อจัดงานแต่งงานของตนแทน สองพี่น้องยุให้กำนันฝอยจับโพยมยงรวบรัดเป็นเมียด้วยอีกคน ที่โรงแรมหรูกลางกรุงเทพฯ งานหมั้นจัดอย่างหรูหรา งามไฉไลรอเวลาแสดงลำตัด เพลงลำข่มใจให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทุกอย่างเป็นไปตามแผน งามไฉไลฉวยโอกาสขึ้นเวทีขณะกำลังแสดง เธอประจานเพลงลำเสียๆ หายๆ การถูกดูถูกทำให้เพลงลำกับบัวสายได้รับความเห็นใจจากแขกในงานมากขึ้น ฝาจีบกับพวกดับไฟ ความโกลาหลวุ่นวายเกิดขึ้นทันที เพลงลำโดนปกรณ์พลฉุดลงจากเวทีไปหลบใต้โต๊ะ เจิดกับบัวเผื่อนช่วยบัวสายหลบไปหลังเวที เวลาผ่านไปครู่ใหญ่กว่าไฟจะเปิดอีกครั้ง โพยมยงตกใจเมื่อรู้ว่างามไฉไลหายไป งามไฉไลตกใจมากเมื่อรู้ว่าฝาจีบจับตัวเธอมา พยายามต่อรองเสนอเงินจำนวนมากให้แต่ฝาจีบไม่สนใจเขาพูดชัดเจนว่าเขาต้องการตัวเธอเท่านั้น ดึกมากแล้วเมื่อกุชงค์กับปกรณ์พลพาเพลงลำกลับบ้านที่บางลำอย่างปลอดภัย ทั้งสองคนสงสัย ฝาจีบว่าจะอยู่เบื้องหลัง พวกเขาไปรับบัวเผื่อนให้ไปตามฝาจีบ บัวเผื่อนรู้ว่าฝาจีบต้องไปที่กระท่อมร้างกลางนาแน่ๆ ปกรณ์พลกับกุชงค์และน้าบัวเผื่อนแปลกใจที่ไม่พบหญิงสาวมีเพียงฝาจีบกับพวกเท่านั้น ระหว่างทางที่ย้อนกลับไปก็พบงามไฉไลนอนสิ้นสติอยู่บนคันนา สภาพบอกได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น ปกรณ์พลกับกุชงค์รีบพาส่งโรงพยาบาล งามไฉไลรักษาตัวอยู่หลายวันไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น อ้างว่าจำไม่ได้อย่างเดียว ปกรณ์พลได้พบดัสกรบ่อยครั้ง ความสนใจเรื่องดนตรีเหมือนกันทำให้ทั้งสองคนมีความสุขทุกครั้งที่ได้พบกัน ดัสกรรู้ทันทีว่าปกรณ์พลคือลูกชายของเขาแน่ๆ จึงนำกีตาร์ตัวโปรดไปฝากไว้ที่โฉมตรูโดยบอกว่าฝากให้ลูกชายของเขาด้วย ดัสกรกำลังจะจากไป แต่งามไฉไลกลับย้อนมาวุ่นวายกับปกรณ์พลอีกครั้ง เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรติดตามได้ทางช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ