ชีวิตที่สดใสของเคท (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) สาวน้อยผู้มีจิตใจงดงามต้องมืดมนลง เมื่อพัทธพล (พลวัฒน์ มนูประเสริฐ) พ่อเลี้ยงของเธอ แอบยักยอกเงินของบริษัทมาริสา (จารุณี สุขสวัสดิ์) มหาเศรษฐีแห่งตระกูลสุทธกานต์ จำนวนเงินถึง 32 ล้านบาท นันทินี (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) แม่ของเคท เธอแต่งงานกับฝรั่งตั้งแต่ยังเด็ก แต่แล้วชีวิตคู่ก็ไปไม่รอด นันทินีกลายเป็นแม่ม่ายลูกติด และแต่งงานใหม่อีกครั้งกับพัทธพลชายผู้ซึ่งติดการพนันเป็นชีวิตจิตใจ มีลูกสาวกับลูกชายด้วยกันสองคนคือแพท (อัญชสา มงคลสมัย) และ พีท (ชวิน ลิขิตเจริญพงษ์) พัทธพลสืบทราบมาว่าสิ่งที่คุณหญิงมาริสาต้องการมากที่สุดในขณะนี้ คือทายาทสืบสกุลสุทธกานต์ พัทธพลจึงเสนอตัวเคทให้แก่ เสกข์(ฌอห์ณ จินดาโชติ) ลูกชายคนเดียวของมาริสา โดยมีข้อตกลงว่าถ้าเคทสามารถให้กำเนิดทายาทได้หนี้ทั้งหมดเป็นอันลบล้างไป ทั้งมาริสาและภาคินี (คีรติ มหาพฤษ์พงศ์) ยอมรับข้อเสนอขอพัทธพล เพราะต้องการใช้เคทเป็นเครื่องมือกันอิษยา (พิชญา เชาวลิต) ภรรยาของพี่ชายให้ออกไปให้พ้น ทว่าเสกข์กลับเข้าใจผิดคิดว่าเคทเต็มใจจะมีทายาทให้สุทธกานต์ ด้วยการยอมเข้ามาเป็นนางบำเรอ เสกข์จึงพลอยรังเกียจและดูถูกเคทไปด้วย ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการใช้หนี้ด้วยวิธีพิสดารนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เฉพาะครอบครัวของเคทเท่านั้น แม้แต่ ศตายุหรือปุ๊(เจษฏ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์) สถาปนิกหนุ่มใจร้อน แฟนหนุ่มของเคทที่รู้ว่าเคทต้องเป็นแม่อุ้มบุญให้ลูกของเสกข์ก็พลอยเจ็บปวดไปด้วย ศตายุอาศัยอยู่บ้านข้างๆ เคท เขาสนิทกับเคทมาตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยความกตัญญูเคทจึงจำใจยอมเดินเข้าสู่บ้านสุทธกานต์ เพื่อชดใช้หนี้ให้กับพ่อเลี้ยง เธอต้องถูกกลั่นแกล้งจากคนในบ้านต่างๆ นานา โดยเฉพาะจากเสกข์ผู้เข็ดขยาดเรื่องความรัก เพราะเขาเคยถูกภรรยาเก่าหลอกลวงมาก่อน แต่แล้วความสดใสร่าเริงและจริงใจของเคท ทำให้คนในบ้านสุทธกานต์ยอมรับ และชื่นชมในตัวเธอมากขึ้นรวมทั้งเสกข์ด้วย ส่วนศตายุก็มีความรู้สึกดีกับภาคินีมากยิ่งขึ้น แต่แล้วทั้งเคทและเสกข์ต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้าย เมื่ออิษยาซึ่งแค้นเสกข์กับ มาริสาเป็นอย่างยิ่งร่วมมือกับ อรรถ(สุพจน์ จันทร์เจริญ) นักการเมืองผู้มีอิทธิพลเล่นงานเสกข์อย่างจริงจัง เคทตัดสินใจเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเสกข์ เคทจะช่วยเสกข์ได้หรือไม่? ความรักของเคทและเสกข์จะลงเอยอย่างไร? หาคำตอบได้ในละคร “เล่ห์รตี”