มื่อไวโอเลตตัดสินใจจากบิลล์ (จอห์น กู๊ดแมน) พ่อที่คอยปกป้องเธอดั่งไข่ในหิน และบ้านในย่านชานเมือง มาอยู่บนห้องพักบนชั้นที่ 5 แห่งหนึ่งในแมนฮัตตัน ทันใดนั้น เธอก็พบว่าตัวเองเกิดความรู้สึกสิ้นหวัง และหมดเนื้อหมดตัว เธอใช้ชีวิตอย่างขยันขันแข็ง แต่งและทำเพลงของเธอเอง ก่อนจะนำไปเสนอตามค่ายเพลง และโปรดิวเซอร์อิสระทุกคนในเมือง ขณะเดียวกันนั้นก็ออกหางาน เพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายประจำวันอีกด้วย ทำแม้กระทั่งขึ้นเวทีแสดงในคลับแห่งหนึ่ง เพียงเพื่อจะพบว่าความกลัวเวทีที่มักจะเกิดขึ้นกับเธออยู่เสมอในอดีต ยังคงทำให้เธอเกิดอาการตื่นเวทีเสียจนไม่สามารถเล่นเพลงของตัวเองต่อหน้าคนดูได้ ขณะยืนแจกเทปตัวเองอยู่ริมทางเท้า ไวโอเลตคิดว่าเธอได้พบคนที่เธอคิดว่าเป็นผู้จัดการคลับที่เกิดสนใจในบทเพลงของเธอขึ้นมา แต่คนๆ นั้นกลับกลายเป็นหนุ่มหล่อ ซึ่งทำงานเป็นพ่อครัวที่ชื่อว่า เควิน (อดัม การ์เซีย) หนุ่มออสซี่ในนิวยอร์คที่มีความเข้าอกเข้าใจเธอ เควินเชื่อในตัวไวโอเลต คอยให้กำลังใจเธอ และยังยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอในสารพัดเรื่อง หลังจากถูกปฏิเสธมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ไวโอเลตเริ่มหันมาเอาจริงเอาจังกับเป้าหมายสุดท้ายของเธอ เธอได้งานประจำที่โคโยตี้ อักลี่ ไนต์คลับแห่งใหม่กลายเป็นร้านที่มาแรงที่สุดของเมือง และเป็นแหล่งบันเทิงที่มีลูกค้าเป็นผู้มีความสามารถมากมาย โดยจุดเด่นอยู่ที่ทีมพนักงานสาวสวยสุดเซ็กซี่และกล้าได้กล้าเสีย ลิล (มาเรีย เบลโล) คือเจ้าของร้านที่เฉลียวฉลาดและเข้าอกเข้าใจ แต่ปกครองลูกน้องสาวด้วยความเฉียบขาด ในบรรดาลูกน้องของลิล ก็รวมถึง แคมมี่ (อิซาเบลล่า ไมโก) สาวจอมเจ้าชู้, เรเชล (บริดเจต มอยนาแฮน) สาวหัวแข็ง และ โซ (ไทร่า แบงค์ส) สาวที่มักจะได้รับทิปมากกว่าเพื่อน กลุ่มสาวโคโยตี้คือชื่อที่บรรดาลูกค้า และสื่อมวลชนทั้งหลายตั้งให้กับพวกเธอด้วยความเสน่หา ลีลาสุดโลดโผนและมีสีสันของพวกเธอทำให้ร้านโคโยตี้ อักลี่เป็นแหล่งหย่อนใจชั้นดีให้กับหนุ่มๆ ที่ต้องหาความบันเทิง แม้ว่าไวโอเลตจะสามารถทำลายเกราะภายนอกของเธอ ใช้น้ำเสียงและความสวยของเธอ เพื่อสร้างความโดดเด่นให้ตัวเองจากบาร์ผสมเหล้า แต่เธอก็รู้สึกผิดหวังที่พบว่าเธอเป็นได้แค่บาร์เทนเดอร์สาวที่สุดเซ็กซี่และโด่งดังเท่านั้น เธอเอางานตัวเองมาเสี่ยง และต้องสูญเสียไม่เพียงเฉพาะความนับถือจากพ่อของเธอเท่านั้น แต่ยังต้องเสียรักแท้และโอกาสที่จะเดินตามความฝันของเธอเอง