แหม่ม (เอมี่ กลิ่นประทุม) สาวห้าวประจำกลุ่มกำลังจะไปเลี้ยงฉลองเรียนจบปริญญาตรีกับเพื่อน คือ ปูเป้ (ปทิตตา อัธยาตมวิทยา) ลูกสาวเสี่ยชนัท (สุเทพ ประยูนพิทักษ์) เจ้าของคาเฟ่ชื่อดังระหว่างที่แหม่มกลับไปเอาของที่บ้านในสลัม แหม่มกับเพื่อนได้ช่วยแคทเธอรีน คอลลีน หญิงต่างชาติกำลังถูกลูกน้องของกำแหง (กลศ อัทธเสรี) ผู้มีอิทธิพล เจ้าของคาเฟ่คู่แข่งของเสี่ยชนัทตามล่าแหม่มพยายามช่วยแคทเธอรีน เธอฝากกระเป๋าเอกสารใบหนึ่งไว้กับแหม่มบอกเพียงว่ามันสำคัญมาก ก่อนที่เธอจะพลัดตกทะเลไป แหม่มรู้แต่ชื่อของเธอโดยไม่รู้ความสำคัญของกระเป๋าและไม่รู้ว่าพวกที่ไล่ล่าแคทเธอรีนคือใคร แหม่มกลับบ้านพร้อมกับกระเป๋า น้าเผือก (ชูษี เชิญยิ้ม) เพื่อนรักของน้ารักษา น้าแท้ ๆ ของแหม่มน้าเผือกสั่งให้แหม่มเอากระเป๋าไปโยนทิ้งเพราะกลัวจะเป็นระเบิด ร้อยตำรวจโทศรายุทธ (ธนา สุทธิกมล) ได้รับมอบหมายให้ตามสืบเรื่องแก๊งค้ายารายใหญ่ เขาจึงปลอมเป็นนักท่องเที่ยวเข้าไปที่คาเฟ่ของกำแหง แหม่มและเพื่อนมาเที่ยวคาเฟ่ของกำแหง แม้ปูเป้จะชวนไปที่คาเฟ่ของพ่อเธอ แต่แหม่มปฏิเสธ ด้วยใจมุ่งหวังว่าอาจจะได้เจอมณฑา หรือ พุดซ้อน (ดารัณ ฐิตะกวิน) ภรรยาน้อยของกำแหง เพราะก่อนหน้านี้ มณฑา คือ แม่ของแหม่มที่ถูกกำแหงฉุดไปตั้งแต่แหม่มยังแบเบาะ สมิธ (เคน สทรุทเคอน์) พ่อชาวอังกฤษของแหม่มถูกฆ่าตายในวันนั้นดีที่รักษาช่วยแหม่มไว้ได้ทันและพามาหลบอยู่กับน้าเผือก พุดซ้อนเข้าใจว่าแหม่มเสียชีวิตไปแล้ว แต่แหม่มก็ต้องผิดหวัง กำแหงขังพุดซ้อนไว้ที่บ้านไม่ยอมให้ออกไปไหน กำแหงรู้มาตลอดว่าพุดซ้อนเก็บปืน หลักฐานที่เขาฆ่าสมิธไว้ แต่พุดซ้อนไม่ยอมบอกว่ามันอยู่ที่ไหน กำแหงนั้นหลงรักพุดซ้อนมานาน แต่พุดซ้อนมีใจให้สมิธถึงขั้นแต่งงานกัน กำแหงเลยหันไปจีบโฉมศรี (แวร์ โชว์) เศรษฐินีม่ายสาวทรงเสน่ห์ กำแหงมีลูกกับโฉมศรีสองคน คือ กำจร (รินทร์ดนัย ไตรรัตน์ธนากรกุล) และ โฉมฉาย (ปาริตา โกศลศักดิ์) นอกจากนี้เขายังมีลูกสาวกับพุดซ้อนอีกคนคือน้ำตาล (ณัฐชา นวลแจ่ม) ซึ่งมีนิสัยผิดกับกำจรและโฉมฉายลิบลับ กำจรทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ เจ้าชู้ไม่เลือก มีลูกน้องคนสนิท คือ ปลิง (ธิติวัฒน์ ธนวัฒน์ภัทร์กุล) ส่วนโฉมฉายไม่สนใจการเรียน เอาแต่หมกมุ่นกับผู้ชายหล่อ ๆ น้ำตาลนั้นขยันเรียน เรียบร้อย แต่อ่อนแอ ไม่กล้าสู้คน จนถูกลูกบ้านใหญ่ข่มเหงเสมอ สิทธา (ดิลก ทองวัฒนา) เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนแห่งใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ คฤหาสน์หลังใหญ่ของสิทธาติดกับสลัมที่แหม่มอยู่ แหม่มโกหกศรายุทธว่านี่เป็นบ้านของเธอ สิทธาเป็นผู้ใหญ่ใจดีเห็นแหม่มมาตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ ด้วยความสงสาร จึงให้แหม่มมาช่วยทำงานบ้านเป็นประจำ แถมยังออกทุนการศึกษาให้เธอได้เล่าเรียนจนจบอีกด้วยสิทธานั้นมีลูกชายคนเดียว คือ นายแพทย์ศิระ (ชวัลนันท์ จันทร์ทรัพย์) แพทย์ศัลยกรรมมือดีที่กลับมาประจำอยู่เมืองไทยศิระสนิทกับแหม่มเค้าแอบรักแหม่มมานาน แต่ไม่กล้าบอก แหม่มกลับไปบ้านพบอรชร (ศิริพิชย์ วิมลโนช) หัวหน้าแดนเซอร์ที่คาเฟ่ของกำแหง เพื่อนบ้านคนสนิทของน้าเผือก ทั้งคู่ดีใจมากที่แหม่มกลับมาอย่างปลอดภัยแหม่มปรึกษาน้าเผือกกับอรชรเพื่อหาทางเข้าไปช่วยเหลือแม่กับน้องสาวต่างพ่อ โดยอรชรเสนอให้แหม่มปลอมตัวเข้าไปเป็นแดนเซอร์ในคาเฟ่ด้านศรายุทธกลับมาปรึกษากับ ร้อยตำรวจโทชาวี (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) เพื่อนรักที่ร่วมสืบคดีค้ายา เพื่อวางแผนเข้าไปหาหลักฐานการค้ายาของกำแหงและสาวไปถึงตัวนายใหญ่อย่างใกล้ชิด โดยศรายุทธจะเข้าทางโฉมฉาย ลูกสาวกำแหงส่วนชาวีจะปลอมตัวเป็นเสี่ยค้ายารายใหญ่เข้าไปล่อซื้อศรายุทธแวะไปหาแหม่มที่บ้านสิทธาอีกครั้ง เค้าตัดสินใจปีนกำแพงบ้านเข้าไป ช่วงเวลานั้นแหม่มมาช่วยทำงานบ้านให้สิทธา ขณะที่แหม่มกำลังจะดูดฝุ่นในห้องทำงาน เครื่องดูดฝุ่นเสีย สิทธามาช่วยแหม่ม ศรายุทธเห็นสิทธากับแหม่มก็แอบฟัง จากบทสนทนาทำให้ศรายุทธเข้าใจว่าแหม่มเป็นอีหนูของสิทธา ระหว่างนั้น ป้าดอก (รักวิยะดา อุมารินทร์) แม่บ้านเก่าแก่ของสิทธา และยังเป็นแม่นมให้ศิระ เห็นศรายุทธเข้า ก็กรี๊ดบ้านแตก แหม่มกับสิทธาได้ยินรีบออกมาแต่ศรายุทธหนีไปแล้ว ตำรวจบุกมาที่สลัม ศรายุทธกับชาวีคอยเป็นกำลังหนุน ตำรวจบุกเข้าไปในบ้านแหม่ม แหม่มกำลังเล่นดนตรีร้องเพลงให้เด็ก ๆ ในสลัมฟัง เด็ก ๆ พากันขวัญเสีย แหม่มโมโหมาก บุกไปถึงสน.เพื่อเอาเรื่อง ศรายุทธกับชาวีรู้ว่าตัวเองเข้าใจผิด ก็รีบหลบ แต่กลับโดน สารวัตรองอาจ (สุเมธ องอาจ) เล่นงาน จะถอดเค้าจากคดีฯ แต่ศรายุทธไม่ยอม อรชรจับแหม่มแปลงโฉม แต่งหน้าและใส่วิกผม จนแหม่มเหมือนชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย ศรายุทธมาที่คาเฟ่ เพื่อสืบคดี ศรายุทธมั่วแต่มองเสื้อที่โดนน้ำหกใส่เดินเข้าไปในห้องน้ำผิดแทบช็อค ผู้หญิงกรี๊ดกร๊าดพากันวิ่งหนีออกไป ศรายุทธรู้ทันทีว่าเข้าห้องน้ำผิด แหม่มเดินออกมาเห็นศรายุทธก็จำได้ แหม่มกรี๊ดไม่หยุด ด่าศรายุทธว่าเป็นไอ้บ้ากาม ไอ้โรคจิตศรายุทธถูกจับโยนออกมาหน้าคาเฟ่โฉมฉายเห็นศรายุทธก็ปิ๊งทันที และโกหกพวกพนักงานว่าศรายุทธเป็นเพื่อนเธอ ด้านแหม่มกำลังตื่นเต้นกับการขึ้นโชว์ครั้งแรก แหม่มออกไปแสดง กำแหงจับตาดูใกล้ชิด ศรายุทธเห็นแหม่มก็จำได้ว่าเป็นคนที่ทำให้เค้าถูกไล่ตะเพิดออกไป ศรายุทธมาดักรอแหม่มที่ทางออก แหม่มตกใจ ศรายุทธขอโทษแหม่มและบอกว่าเค้าไม่ได้เป็นบ้ากาม ศิระเป็นห่วงแหม่ม ก็เลยชวนปูเป้มาหาแหม่มที่คาเฟ่ และได้เห็นน้ำตาลครั้งแรก ศิระแปลกใจที่น้ำตาลมีคนคุมตลอดเวลา ทำให้ปูเป้เซ็งที่ศิระไม่สนใจเธอเลย ระหว่างที่ปูเป้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เธอก็เดินชนชาวีที่มาเที่ยวในมาดเสี่ยชาวี ชาวีปลื้มปูเป้ตั้งแต่แรกพบและทำท่าเจ้าชู้ให้สมบทบาท จนปูเป้นึกหมั่นไส้ไม่ขอโทษแถมยังกระทืบเท้าเขาอีก แต่ชาวีกลับชอบใจผู้หญิงพยศอย่างปูเป้ น้ำตาลเดินมาเก็บเงินลูกค้าโต๊ะหนึ่งแต่จะถูกลวนลาม ศิระจึงเข้าช่วยไว้ทำให้น้ำตาลประทับใจมาก แหม่มมีโอกาสเข้ามาในบ้านกำจร แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เจอพุดซ้อน เพราะกำจรจะตามเธอตลอดเวลา แหม่มแอบหลบไปที่เรือนหลังเล็ก เพราะต้องการเจอพุดซ้อน น้ำตาลกำลังให้ยาพุดซ้อน อยู่ ๆ พุดซ้อนก็เกิดอาการโรคหัวใจกำเริบ น้ำตาลตกใจทำอะไรไม่ถูก แหม่มเข้ามาพอดี ทันทีที่เห็นแม่ก็ทั้งดีใจและตกใจ แหม่มรีบพาพุดซ้อนไปโรงพยาบาลของสิทธา พร้อมด้วยน้ำตาล ศิระช่วยจัดการเรื่องพุดซ้อน แหม่มเป็นห่วงแม่กับน้องมากขึ้น เพราะรู้ว่าโฉมฉาย เชอรี่ และนุ่มชอบมารังแก แหม่มทำเป็นว่าตัวเองโดนหลอกเงินหมดตัว ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน กำจรสงสารเลยชวนให้แหม่มเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกัน แหม่มดีใจที่แผนสำเร็จโฉมฉายไม่พอใจที่พี่ชายพานักร้องคาเฟ่มาที่บ้าน แต่กำจรไม่สนใจยังคงตามเอาใจแหม่มและกีดกันผู้ชายทุกคนที่แวะเวียนมาใกล้ โดยเฉพาะหมอศิระ ศรายุทธกับแหม่มเจอกันบ่อยครั้ง และทุกครั้งที่เจอก็จะมีปากมีเสียงกันตลอด เลยพลอยทำให้กำจรกับโฉมฉายมีปากเสียงกันไปด้วย เพราะต่างฝ่ายต่างเข้าข้างคนของตัวเอง โฉมฉายสุดทนกับแหม่ม เลยวางแผนกับเชอรี่และนุ่ม ทำให้แหม่มระเห็จออกไปจากบ้าน แต่ทั้งสามคนรังแกแหม่มไม่สำเร็จ เพราะเจอฤทธิ์เดชของแหม่มเข้าไป กลายเป็นว่าโฉมฉาย เชอรี่ และนุ่มที่โดนเล่นงานจนสะบักสะบอม กำจรโวยวายกับกำแหงเรื่องที่แหม่ถูกลักพาตัวไป โฉมฉายกับนุ่มได้ยิน ก็แอบหัวเราะคิกคัก กำจรเห็นก็รู้ทันทีว่าเป็นแผนของโฉมฉาย ศรายุทธพาแหม่มเข้าป่าเข้าพง แหม่มถูกปิดตา ปิดปาก มัดมือ ไม่ให้พูด เพราะตั้งแต่ถูกจับมา แหม่มด่าไม่หยุด จนศรายุทธหูแทบแตก ศรายุทธพาแหม่มเข้ามาอยู่ที่บ้านพักของเค้าที่เขาใหญ่ สาเก (สะท้าน คุ้มเกตุ) กับ สาคู (เขาทรายน้อย ซุปเปอร์แคระ) สองพี่น้องคนแคระที่เป็นคนดูแลบ้านแปลกใจที่ศรายุทธพาผู้หญิงมา แหม่มถูกขังไว้ในบ้าน ท่ามกลางป่าเขา ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ด้านปูเป้รู้เรื่องจากน้าเผือกและอรชรเรื่องที่แหม่มถูกลักพาตัวก็รีบไปบอกให้ชาวีช่วยชาวีรับปากว่าจะช่วยเพื่อให้ปูเป้ไม่ถามอะไรเค้าต่อ ชาวีรีบติดต่อศรายุทธ แต่ติดต่อไม่ได้ ชาวีกลุ้มใจ แล้วก็นึกออกว่าศรายุทธพาแหม่มไปที่ไหน? โฉมฉายนัดเจอศรายุทธ เธอดีใจที่ศรายุทธลักพาตัวแหม่ม แต่ศรายุทธกลับโกหกว่าเค้าไม่ได้เป็นคนทำ ชาวีมาถึงเขาใหญ่ในวันที่ศรายุทธไม่อยู่ ชาวีเจอสาเกกับสาคู่ สองคนโกหกว่าไม่มีใครอยู่สาเกกับสาคูคอยเอาข้าวเอาน้ำมาให้แหม่ม แหม่มไม่ยอมกินข้าวกินน้ำ กลับเหวี่ยงโวยวาย ร้อนถึงศรายุทธ ต้องเข้ามาหา ศรายุทธมีผ้าปิดหน้า แหม่มรู้สึกคุ้น ๆ ด้านชาวีกังวลใจเรื่องศรายุทธกับแหม่มมาก จนปูเป้สงสัย และเค้นถามจนรู้ ปูเป้โมโหสุด ๆ จะตามไปเอาเรื่องศรายุทธ แต่ปลิงกลับได้ยิน และรีบไปบอกกำจรให้รู้ กำจรหมายหัวศรายุทธ แหม่มหนีเข้าไปกลางป่า ศรายุทธตามไปจนจับตัวได้ แต่ทว่า..ทั้งคู่กลับหลงป่า ชาวีพาปูเป้มาที่บ้านพักของศรายุทธในเขาใหญ่ สาเกกับสาคูบอกว่าศรายุทธกับแหม่มหายตัวไปในป่า ปูเป้โกรธมาก ศรายุทธกับแหม่มช่วยเหลือกันในป่า จนความขัดแย้งที่ทั้งคู่มีให้กัน มลายหายไป ศรายุทธทำหน้าเป็นสุภาพบุรุษ คอยดูแลแหม่ม แล้วในที่สุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ตามหาศรายุทธกับแหม่มจนเจอ ทั้งคู่กลับมาเจอชาวีกับปูเป้ ศรายุทธตัดสินใจเล่าความจริงให้แหม่มกับปูเป้ฟัง สองสาวจึงรู้ว่าศรายุทธกับชาวีเป็นตำรวจที่ปลอมตัวเข้ามาเพื่อหาหลักฐานเล่นงานกำแหงกับกำจร ด้านแหม่มเลยตัดสินใจเล่าเรื่องของเธอให้ศรายุทธกับชาวีฟัง ว่าแหม่มคือลูกสาวอีกคนของพุดซ้อน ที่เข้ามาในบ้านกำจรเพราะอยากมาหาแม่ศรายุทธฟังจบก็สงสารแหม่มขึ้นมาทันทีศรายุทธคอยช่วยเหลือให้แหม่มได้ใกล้ชิดพุดซ้อนเป็นประจำ และการได้คุยกับแหม่มก็ทำให้พุดซ้อนกลับมาสดใส ขณะที่ชาวีติดต่อกำแหงเพื่อค้าขายยาเสพติดกันของล็อตแรกผ่านไปด้วยดี เพราะชาวีต้องการให้กำแหงไว้ใจ แต่การค้าขายเริ่มติดขัด ตำรวจตามมารวบของกลางไปได้เกือบทุกครั้ง กำแหงไม่ได้สงสัยทั้งชาวีและศรายุทธ ผิดกับ ไพศาล (อนุสรณ์ เตชะปัญญา) นักการเมืองชื่อดังหุ้นส่วนบริษัทสิทธา ไพศาลจึงส่ง สร้อยนภา (จีรนันท์ ปรีดากุล) เลขาส่วนตัวที่ทั้งเก่งและเซ็กซี่ลงพื้นที่ด้วยตัวเองสร้อยนภาเห็นศรายุทธ ซึ่งตอนนี้เลื่อนขั้นมาเป็นบอดี้การ์ดของโฉมฉายแล้วก็ไม่ไว้ใจ จึงแอบจ้างปลิง ลูกน้องกำจรคอยตามประกบศรายุทธทุกฝีก้าว วันหนึ่งปลิงแอบเห็นศรายุทธคุยกับตำรวจจึงถ่ายคลิปส่งไปให้สร้อยนภา สร้อยนภาให้กำแหงระวังตัวจากศรายุทธ แต่กำแหงไม่สนใจเพราะยังมุ่งมั่นอยู่กับเรื่องพุดซ้อนและแหม่ม ด้วยเขาเริ่มสงสัยแล้วว่าแหม่มอาจจะเป็นลูกของพุดซ้อนที่ยังไม่ตาย ศรายุทธกำลังจะรวบรวมหลักฐานชิ้นสำคัญเกี่ยวกับตัวนายใหญ่ได้ แต่กำแหงก็ไหวตัวทันเสียก่อน ทำให้งานของศรายุทธผิดแผน แถมโฉมฉายยังเกาะติดเขาไม่ห่าง ทำให้เขาขยับตัวลำบาก ส่วนแหม่มเหมือนถูกสะกดรอยตามอยู่ตลอดเวลา สร้อยนภารู้ว่าเสี่ยชนัทพ่อของปูเป้เจ้าชู้มาก เธอจึงอาศัยความเซ็กซี่เข้าไปตีสนิทเพื่อล้วงความลับเกี่ยวกับแหม่ม และเธอก็ได้ข้อมูลว่าแหม่มคือลูกสาวของพุดซ้อน และไม่ใช่นักร้องคาเฟ่อย่างที่กำแหงเข้าใจ จึงนำไปบอกกำแหง กำแหงแค้นใจมาก ขณะเดียวกันแหม่มได้ข่าวของแคทเธอรีน แหม่มดีใจมาก เพราะอยากเอาของของแคทเธอรีนไปคืน แหม่มไปถึงโรงพยาบาล ทำให้เห็นว่าใบหน้าของแคทเธอรีนเป็นแผลจนไม่มีใครจำได้ยกเว้นแหม่ม แหม่มดีใจมากที่เจอแคทเธอรีนอีกครั้ง เธอจึงขอร้องให้ศิระช่วยทำศัลยกรรมใบหน้าให้ไพศาลเร่งให้กำแหงหาแคทเธอรีนตัวปลอมมาสวมรอยไปพบสิทธา เพราะไพศาลรู้มาตลอดว่าแคทเธอรีนเป็นเลขาของสมิธ นักธุรกิจร้อยล้านจากต่างประเทศ เพื่อนรักของสิทธา ซึ่งมีหลักฐานการโกงบริษัทของไพศาล ด้านศิระกลับไปเยี่ยมสิทธาผู้เป็นพ่อ และพบรูปภาพเก่า ๆ ของพ่อกับครอบครัวสมิธเพื่อนรัก ศิระพบว่าภรรยาของสมิธหน้าตาเหมือนพุดซ้อนมากก็สงสัยสอบถามกับพ่อจนได้รู้ความจริงว่า แหม่มคือลูกสาวเพื่อนรักของพ่อนั่นเอง และสมิธก็ไม่ได้ตายอย่างที่ทุกคนเข้าใจ วันนัดหมายระหว่างสิทธากับแคทเธอรีนมาถึง แหม่มแต่งตัวใส่วิกจนสิทธาจำไม่ได้ แหม่มเจอสิทธาถึงกับตะลึงเพราะคนที่เธอจะต้องโกงเงินคือผู้มีพระคุณ เมื่อแหม่มได้รับเช็คแล้วก็ตัดสินใจหลบหนีแหม่มให้น้าเผือกช่วยหาที่ซ่อนให้ น้าเผือกนึกอะไรไม่ออกนอกจากเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งรักษาซ่อนหลักฐานทั้งหมดของแหม่มไว้ แต่เหมือนคราวเคราะห์เมื่อเกาะแห่งนั้นดันเป็นที่เดียวกับโรงงานผลิตยาบ้าแห่งใหญ่ของไพศาล แหม่มเห็นทุกอย่างก็แทบช็อค และมันทำให้แหม่มเกือบถูกจับได้ ดีที่ศรายุทธมาช่วยไว้ทันเพราะเขานำกำลังตำรวจมาทลายโรงงานที่นี่พอดี ศรายุทธถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ จากศิระให้แหม่มได้รับรู้แหม่มดีใจมากที่แม่ยังปลอดภัย และพ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ศรายุทธพาแหม่มไปหลบอยู่ที่บ้านเขาใหญ่ของเค้าด้วยบรรยากาศที่เป็นใจทำให้ทั้งคู่เปิดเผยความในใจให้กันและกันรู้ ศรายุทธให้แหม่มหลบอยู่ที่นี่จนกว่าเรื่องจะเรียบร้อย ส่วนเขาจะกลับไปจัดการหาหลักฐานชิ้นสำคัญจัดการกำแหง ขณะเดียวกันเผือกก็นำความลับเรื่องที่ซ่อนหลักฐานให้ศิระและปูเป้ได้รับรู้ ทำให้ชาวีซึ่งมาตามจีบปูเป้รู้เรื่องไปด้วยชาวีรีบส่งข่าวให้ศรายุทธรับรู้ แต่ศรายุทธกำลังติดพันกับการหาหลักฐานในบ้านของกำแหงอยู่ จึงขอให้ชาวีตามไปช่วยแทน ด้านสร้อยนภารู้เรื่องนี้จากเสี่ยชนัทจึงให้กำแหงไปจัดการแหม่ม ฝ่ายของชาวีกับกำแหงปะทะกัน กำแหงได้รู้ความจริงว่าชาวีเป็นตำรวจก็แค้นใจจึงไม่ยอมมอบตัว โฉมฉายเสียใจมากที่ถูกศรายุทธหลอกใช้มาตลอด เมื่อเธอรู้ว่าศรายุทธรักกับแหม่ม จึงไปพูดให้แหม่มเข้าใจผิดว่าที่ศรายุทธไม่ยอมมาหาแหม่ม เพราะกำลังอยู่กับเธอ และเธอเป็นเมียศรายุทธแล้ว แหม่มเชื่อที่โฉมฉายพูดจึงหนีจากศรายุทธ ไม่ยอมพบเจอศรายุทธอีกแหม่มนำเช็คไปคืนสิทธา และขอโทษที่เธออกตัญญู แต่สิทธาไม่โกรธและพาแหม่มไปพบหน้าพุดซ้อน พุดซ้อนดีใจมากที่แหม่มคือลูกสาวของตนน้ำตาลเข้าไปกอดพี่สาวด้วยความยินดี ศิระมองน้ำตาลด้วยความรัก สิทธาพอมองออกจึงแอบกระซิบลูกชายว่า หากน้ำตาลเรียนจบเมื่อไหร่ เขาจะไปขอกับพุดซ้อนให้ ทำให้ศิระดีใจมาก ขณะที่ชาวียังคงตามจีบปูเป้ จนปูเป้ใจอ่อนยอมรับชาวี แต่ชาวียังต้องฝ่าด่านเสี่ยชนัท ว่าที่พ่อตาที่แสนหวงลูกสาวอีกด่าน ศรายุทธจะตามมาง้อแหม่มแต่แหม่มไม่เปิดโอกาส แถมโฉมฉายยังเกาะติดเขาแจโดยใช้ความน่าสงสารที่พ่อถูกจับเข้าคุกมาเรียกร้องความสนใจ สร้อยนภายังคงหลอกเสี่ยชนัทจนรู้ว่าแคทเธอรีนยังมีชีวิตอยู่ เธอสั่งให้ปลิงไปจัดการปิดปากแคทเธอรีนแต่ปลิงทำงานพลาดถูกตำรวจจับ สร้อยนภาหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจจึงรายงานให้ไพศาลรู้ และบอกจะลงมือเอง แต่ศรายุทธและตำรวจที่ติดตามเรื่องนี้รู้เข้าเพราะเสี่ยชนัทจับได้ว่าสร้อยนภาหลอกใช้ตน จึงไปบอกตำรวจ ศรายุทธวางแผนซ้อนแผนดักจับสร้อยนภา แหม่มแอบรู้เรื่องนี้ก็เป็นห่วงศรายุทธจึงคิดตามไป แม้จะยังโกรธเขาเรื่องโฉมฉายก็ตามสร้อยนภาลอบเข้าไปยิงแคทเธอรีนในโรงพยาบาล แต่พบเพียงความว่างเปล่าและหลักฐานปลอม เพราะหลักฐานทั้งหมดอยู่ที่ตำรวจแล้ว ไพศาลพยายามหนีออกนอกประเทศ แต่ก็ไม่ทัน สร้อยนภาหลบหนีการจับกุมและจับแหม่มเป็นตัวประกัน ศรายุทธหาทางช่วยแหม่มได้สำเร็จ สร้อยนภาถูกจับแต่ตัวเขากลับถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ศิระบอกแหม่มและทุกคนว่า ศรายุทธได้รับการช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว แต่อาจเดินไม่ได้ตลอดชีวิต แหม่มรู้สึกผิดมากที่เป็นต้นเหตุ จึงอาสาดูแลเขา ขณะที่ โฉมฉายรู้เรื่องก็ตัดสินใจเลิกยุ่งกับศรายุทธเด็ดขาดและตามแม่กับพี่ชายไปต่างประเทศ เพราะทนไม่ได้ที่จะต้องอยู่กับคนพิการ สมิธเดินทางมาเมืองไทยเป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบปี สมิธดีใจมากที่ได้เจอลูกเมีย และเขาไม่คิดรังเกียจที่จะรับน้ำตาลไว้เป็นลูกสาวอีกคน ด้านเสี่ยชนัทให้ชาวีพิสูจน์ตัวเองว่ารักปูเป้จริงแล้วจึงจะยอมยกปูเป้ให้ ซึ่งชาวีก็ไม่ท้อแท้ที่จะพิสูจน์ตัวเอง