Sex and the City 2 คือภาพยนตร์ที่มีจุดขายเป็นพลังของผู้หญิง อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้จึงอัดแน่นไปด้วยพลังของนักร้องหญิงมากมาย หนึ่งในนั้น คือ อลิชา คีย์ส (Alicia Keys) ที่ฝากเสียงร้องไว้ 2 เพลง คือ Rapture ซึ่งเดิมเป็นซิงเกิลจากปี 1981 ของวง บลอนดี (Blondie) และ Empire State of Mind (Part II) Broken Down ซึ่งเป็นเพลงโต้ตอบ Empire State of Mind ของ เจย์-ซี (Jay-Z) ที่เธอไปร่วมร้องด้วยก่อนหน้านี้ ไลซา มินเนลลี (Liza Minnelli) ทายาทของนักแสดงภาพยนตร์เพลงในตำนาน จูดี การ์แลนด์ (Judy Garland) มีส่วนร่วมในอัลบั้มด้วยการนำเพลงอาร์แอนด์บียอดนิยมของ บียอนเซ โนวล์ส (Beyonce Knowles) อย่าง Single Ladies (Put a Ring on It) มาร้องใหม่ อีกทั้งยัง ร่วมกับ บิลลี สทริตช์ (Billy Stritch) ขับร้องเพลง Ev'ry Time We Say Goodbye เพลงเก่าจากละครเวที Seven Lively Arts ซึ่งโด่งดังเพราะฝีมือการเขียนเนื้อเพลงที่หาตัวจับยาก ของ โคล พอร์เตอร์ (Cole Porter) ความสดใหม่ของอัลบั้มนี้อยู่ที่ผลงานของ ไดโด (Dido) ในเพลง Everything To Lose ที่เจ้าตัวตั้งใจจะให้เป็นซิงเกิลแรกของอัลบั้มชุดที่ 4 อีกเพลงที่ใหม่แกะกล่องไม่แพ้กัน คือ Window Seat เพลงช้าว่าด้วยการโหยหาคนรักของ เอริกาห์ บาดู (Erykah Badu) ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม New Amerykah Part Two (Return of the Ankh) ในปี 2010 ของเธอ รวมทั้งยังมีเพลง Love Is Your Color ซึ่งนักร้องดังระดับ เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน (Jennifer Hudson) และ เลโอนา ลิวอิส (Leona Lewis) ร่วมร้องด้วยกันเพื่ออัลบั้มนี้โดยเฉพาะ นอกจากเพลงใหม่ๆ แล้ว ยังมีเพลงเก่าอย่าง True Colors จากชื่ออัลบั้มเดียวกันเมื่อปี 1986 ของ ซินดี ลอเปอร์ (Cyndi Lauper) ส่วนเพลงที่นางเอกทั้ง 4 คนของเรื่องอย่าง ซาราห์ เจสสิกา ปาร์กเกอร์ (Sarah Jessica Parker) คิม แคตทรอลล์ (Kim Cattrall) ซินเธีย นิกสัน (Cynthia Nixon) และ คริสติน เดวิส (Kristin Davis) ได้ร้องไว้ คือเพลงที่มักจะถูกใช้เวลาที่มีการเรียกร้องเสรีภาพของสตรีอย่าง I Am Woman ที่ฉบับดั้งเดิมขับร้องโดย เฮเลน เรดดี (Helen Reddy) ส่วนเพลงประสานเสียงก็มีให้ฟังกันในอัลบั้มนี้ ซึ่งล้วนแต่เป็นเพลงจากละครเวทีเก่าแก่ทั้งสิ้น ได้แก่ If Ever I Would Leave You จากละครเวที Camelot เมื่อปี 1960 เพลง Sunrise, Sunset จากละครเวที Fiddler on the Roof เมื่อปี 1964 และเพลง Till There Was You จากละครเวที The Music Man เมื่อปี 1957 ซึ่งเพลงสุดท้ายนี้ วงสี่เต่าทอง เดอะ บีเทิลส์ (The Beatles) เคยนำมาขับร้องเอาไว้เช่นกัน ...อ้างอิง http://sz4m.com/c2302